แนวข้อสอบความรู้เรื่องการท่องเที่ยว
ก. http:// www.tat.or.th ค. http:// www.moc.go.th
ข. http://www. energy.co.th ง. http:// www.mof.go.th
ตอบ ก. http:// www.tat.or.th
2. ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ก. Ministry of Tourism & Sports
ข. Ministry of Culture Thailand
ค. Tourism Authority of
ง. Authority Tourism of
ตอบ ค. Tourism Authority of
3. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีชื่อย่อว่าอะไร
ก. ททท. ค. กหท.
ข. กทท. ง. ทหท.
ตอบ ก. ททท.
ก. เขตปทุมวัน ค. เขตราชเทวี
ข. เขตบางนา ง. เขตจตุจักร
ตอบ ค. เขตราชเทวี
600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
5. ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายพงศธร เกษสําลี ค.นายยุทธศักดิ์ สุภสร
ข. นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ ง.นายสุรพล เศวตเศรนี
ตอบ ค.นายยุทธศักดิ์ สุภสร
รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีกี่คน
ก. 2 คน ค. 3 คน
ข. 7 คน ง. 5 คน
ตอบ ข.7 คน
6. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
ก. 10 สิงหาคม พ.ศ. 2492 ค.12 สิงหาคม พ.ศ. 2492
ข. 11 สิงหาคม พ.ศ. 2492 ง.13 สิงหาคม พ.ศ. 2492
ตอบ ก. 10 สิงหาคม พ.ศ. 2492
7. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานประเภทใด
ก. รัฐบาล
ข. เอกชน
ค. รัฐวิสาหกิจ
ง. รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ตอบ ง.รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
8. การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยเกิดขึ้นโดยพระดำริของใคร
ก. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
ข. จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ค. รัชกาลที่ 6
ง. รัชกาลที่ 5
ตอบ ก. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
9. อ.ส.ท. คือ
ก. องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ข. สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว
ค. สำนักงานท่องเที่ยว
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ก. องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
10. ข้อใดคือวิสัยทัศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ก. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการตลาด
ข. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการท่องเที่ยวและการตลาด
ค. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการตลาดการท่องเที่ยวยุคใหม่
ง. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการตลาดการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ตอบ ง. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการตลาดการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
"ททท. เป็นองค์กรชั้นเลิศระดับสากลด้านการตลาดการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ผลักดันให้ ททท. เป็นองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการตลาดอย่างแท้จริง โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และให้ ททท. ทำหน้าที่เป็นผู้นําและผู้ประสานประโยชน์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคธุรกิจและองค์กรชุมชนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยด้านการท่องเที่ยว"
12. ข้อใดคือพันธกิจของแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559
ก. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว ตลอดจนปัจจัย
สนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ให้มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล
ข. เตรียมความพร้อมของภาคบริการและปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีความพร้อม
ในการรองรับการเปลี่ยนแปลง และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
ค. สร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
13. ข้อใดคือวิสัยทัศน์ของการแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559
ก. ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก
ข. ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สามารถแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก
ค. ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก สามารถสร้างรายได้และกระจายรายได้โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม สมดุล และยั่งยืน
ง. ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้และกระจายรายได้โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม สมดุล และยั่งยืน
ตอบ ค.ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก สามารถสร้างรายได้และกระจายรายได้โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม สมดุล และยั่งยืน
ก. 3 ข้อ ค. 5 ข้อ
ข. 4 ข้อ ง. 6 ข้อ
ตอบ ค. 5 ข้อ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก
เพื่อการท่องเที่ยว
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาสินค้า บริการและปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยว
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยว
ก. พ.ศ.2550-2554 ค. พ.ศ.2551-2554
ข. พ.ศ.2550-2555 ง. พ.ศ.2555-2559
ตอบ ง. พ.ศ.2555-2559
ก. ส่งเสริมให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ข. ส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย
ค. มุ่งพัฒนาองค์กร ระบบบริหารจัดการ และเสริมสร้างบุคลากรให้มีทักษะและขีดความสามารถทางการตลาดท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. 12 คน ค. 17 คน
ข. 15 คน ง. 21 คน
ตอบ ค. 17 คน
ก. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ค. นายกลินท์ สารสิน
ข. นายธานี ทองภักดี ง. นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม
ตอบ ค. นายกลินท์ สารสิน
ก. กระทรวงพลังงาน ค. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ข. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ง. กระทรวงพาณิชย์
ตอบ ข. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
20. ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คือใคร
ก. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ค. ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร
ข. นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ง. พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์
ตอบ ค.ดร.
21. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คนปัจจุบันคือใคร
ก. พล.ต.ต.
ข. นายสง่า ธนสงวนวงศ์ ง. พิพัฒน์ รัชกิจประการ
ตอบ ง. พิพัฒน์ รัชกิจประการ
22. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คนปัจจุบัน คือใคร
ก. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ค.นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์
ข. นายโชติ ตราชู ง. นายอภิชัย มงคล
ตอบ ข. นายโชติ ตราชู
ก. Ministry of Tourism and Sports
ข. Ministry of Commerce
ค. Ministry of Finance
ง. Ministry of Science and Technology
ตอบ ก. Ministry of Tourism and Sports
ก. http:// www.mots.go.th ค. http:// www.moc.go.th
ข. http:// www. mfa.go.th ง. http:// www.energy.go.th
ตอบ ก. http:// www.mots.go.th
ก. 3 ตุลาคม 2545 ค. 29 มิถุนายน 2545
ข. 24 กันยายน 2545 ง. 5 ตุลาคม 2545
ตอบ ก. 3 ตุลาคม 2545
ก. วันเสาร์-อาทิตย์ ค. วันหยุดนักขัตฤกษ์
ข. วันจันทร์-พุธ ง. วันธรรมดา
ตอบ ง. วันธรรมดา
ก. ภาพเล่าเรื่องเบื้องพระยุคลบาท
ข. ภาพเล่าเรื่องมหัศจรรย์ใต้ฟ้าพระบารมี
ค. เส้นทางโครงการพระราชดำริ
ง. เส้นทางมหัศจรรย์ใต้ร่มพระบารมี
ตอบ ก. ภาพเล่าเรื่องเบื้องพระยุคลบาท
ก. 1695 ค. 1572
ข. 1672 ง. 1726
ตอบ ข.1672
ก. เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน
ข. เที่ยวไทยให้สนุก แวะเติมความสุขให้ทั่วไทย
ค. ขับรถเที่ยวให้สนุก แวะเติมความสุขให้ทั่วไทย
ง. มหัศจรรย์ประเทศไทย
ตอบ ก. เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน
ก. 12 ประเภท ค. 8 ประเภท
ข. 10 ประเภท ง. 6 ประเภท
ตอบ ก. 12 ประเภท ได้แก่ 1. แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 2. แหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะวิทยาการ 3. แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ 4. แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 5. แหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ 6. แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 7. แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพน้ำพุร้อนธรรมชาติ 8. แหล่งท่องเที่ยวประเภทชายหาด 9. แหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตก 10. แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภทถ้ำ 11. แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภท เกาะ 12. แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภท แก่ง
ก. การแบ่งตามสากล ค. การแบ่งตามจุดมุ่งหมายของการเดินทาง
ข. การแบ่งตามลักษณะการจัดการเดินทาง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. การท่องเที่ยวภายในประเทศ ค. การท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ
ข. การท่องเที่ยวนอกประเทศ ง. การท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ
ตอบ ค.การท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ
ก. การเดินทางแบบอิสระ ค. การเดินทางเพียงสองคน
ข. การท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ก. 10 ประเภท ค. 3 ประเภท
ข. 5 ประเภท ง. 7 ประเภท
ตอบ ค. 3 ประเภท ได้แก่
1) แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ 2) แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ โบราณคดี และ 3) แหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความบันเทิงนั้น จัดเป็นส่วนหนึ่งในสถานบริการนักท่องเที่ยว
ก. คน ค. เวลา
ข. สถานที่ ง. เงิน
ตอบ ง. เงิน
ก. เป็นการเดินทางชั่วคราว ใช้เวลาพำนัก ณ ที่จุดหมายปลายทาง
ข. เคลื่อนที่จากที่เดิมไปยังอีกที่หนึ่ง
ค. เป็นการเดินทางด้วยความสมัครใจ
ง. ทุกข้อรวมกัน
ตอบ ง. ทุกข้อรวมกัน
ก. เพื่อความสนุก ค. เพื่อเชิงวัฒนธรรม
ข. เพื่อการศึกษา ง. ประชุมสัมมนา
ตอบ ค. เพื่อเชิงวัฒนธรรม
ก. เพื่อความสนุก ค. เพื่อเชิงวัฒนธรรม
ข. เพื่อการศึกษา ง. ประชุมสัมมนา
ตอบ ข.เพื่อการศึกษา
ก. Transit ค. Tourist
ข. Visitor ง. Tourism
ตอบ ค. Tourist
ก. 3 แบบ ค. 5 แบบ
ข. 2 แบบ ง. 4 แบบ
ตอบ ก. 3 แบบ ได้แก่ 1. การท่องเที่ยวส่วนบุคคล 2. การท่องเที่ยวแบบทัวร์หรือแบบนำเที่ยว 3.การท่องเที่ยวตามคาบเวลาของการท่องเที่ยว
ก. การท่องเที่ยวคาบเวลาสั้น ค. การท่องเที่ยวแบบลบ
ข. การท่องเที่ยวแบบบวก ง. การท่องเที่ยวแบบทัศนาจร
ตอบ ข. การท่องเที่ยวแบบบวก
ก. ภูเก็ต ค. ระยอง
ข. กระบี่ ง. พังงา
ตอบ ข.กระบี่
ทะเลแหวก เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้สันทรายของเกาะทั้ง 3 คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ ปรากฏขึ้นกลายเป็นหาดทรายขาวเชื่อมกันทั้ง 3 เกาะ อย่างน่าอัจศจรรย์ใจ โดยจะเกิดเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ทำให้สามารถเดินเล่นไป-มาระหว่างเกาะได้ สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยว คือ เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
ก. โพธาราม ค. บ้านโป่ง
ข. ดําเนินสะดวก ง. จอมบึง
ตอบ ก. โพธาราม
ค้างคาวร้อยล้าน
บริเวณวัดเขาช่องพราน ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม มีถ้ำที่สวยงาม คือ "ถ้ำพระนอน" ซึ่งภายในถ้ำมีพระพุทธรูปมากกว่าร้อยองค์ และมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ ความยาว 9 เมตร แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เขาช่องพราน คือ ฝูงค้างคาวนับล้านตัว ที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำนานนับชั่วโมง ทุกเย็นในช่วงใกล้พลบค่ำ ประมาณ 17.30 น. ในช่วงฤดูร้อนฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันตก
ก. ใบไม้จะไหวสั่นทุกครั้งที่ถูกคนสัมผัส
ข. ในประเทศไทยมีเพียงต้นเดียว
ค. เป็นต้นไม้หันหลังให้แดดหันหน้าเข้าวัด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. ราชบุรี ค. ชลบุรี
ข. ระยอง ง. กระบี่
ตอบ ค. ชลบุรี
ก. เชียงราย ค. แม่ฮ่องสอน
ข. เชียงใหม่ ง. ลำปาง
ตอบ ค. แม่ฮ่องสอน
ก. เลย ค. นครราชสีมา
ข. หนองบัวลำภู ง. นครพนม
ตอบ ก. เลย
ก. ภูเก็ต ค. กระบี่
ข. พังงา ง. ตรัง
ตอบ ก.ภูเก็ต
ก. ตราด ค. สมุทรปราการ
ข. กาญจนบุรี ง. ลำพูน
ตอบ ข.กาญจนบุรี
50. มัคคุเทศก์ คือ
ก. ผู้คอยบรรยายชี้แจงเกี่ยวกับการเดินทาง
ข. ผู้ที่นำนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับสถานที่หรือบุคคลโดยได้รับค่าตอบแทน
ค. ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ ข้อมูล ความเข้าใจทางด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเหตุการณ์ร่วมสมัยต่างๆแก่บุคคลที่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
51. ข้อใดคือคุณสมบัติของมัคคุเทศก์
ก. พูดภาษาอังกฤษได้ดี
ข. มีความรู้ทั่วไป และเป็นผู้ที่ขวนขวายหาความรู้สม่ำเสมอ
ค. รักการเดินทางท่องเที่ยว และงานบริการ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ผู้ประกอบอาชีพนี้ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. พูดภาษาต่างประเทศได้อย่างน้อย คือ ภาษาอังกฤษ
2. มีความรู้ทั่วไป และเป็นผู้ที่ขวนขวายหาความรู้สม่ำเสมอ
3. รักการเดินทางท่องเที่ยว และงานบริการ ปรับตัวได้ และเป็นนักแก้ไขปัญหาได้ดีใน ทุกสถานการณ์
4. มีความยืดหยุ่น ประนีประนอม และมีลักษณะอบอุ่นโอบอ้อมอารีเป็นที่ไว้วางใจของ ผู้เดินทางร่วมไปด้วย
5. มีความเป็นผู้นำ มีความกล้า มีความรอบคอบและไม่ประมาท
6. มีทัศนะคติดี ร่าเริง มีความเสียสละซื่อสัตย์ ซื่อตรง และอดทน
7. สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีไหวพริบและปฏิภาณดี
8. มีความคิดสร้างสรรค์ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
9. เป็นนักสื่อสารที่ดี รักการอธิบาย และการบรรยายความรู้ต่าง ๆ
10. เป็นนักจัดเก็บข้อมูลที่ดี ทั้งข้อมูลการ ท่องเที่ยว ความนิยมของลูกค้า และรายชื่อลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว
52. มัคคุเทศก์แบ่งเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท ค. 4 ประเภท
ข. 3 ประเภท ง. 5 ประเภท
ตอบ ก. 2 ประเภท คือ มัคคุเทศก์ทั่วไป และมัคคุเทศก์เฉพาะ
53. มัคคุเทศก์ทั่วไป มีกี่ชนิด
ก. ชนิดเดียว ค. 3 ชนิด
ข. 2 ชนิด ง. 8 ชนิด
ตอบ ข.2 ชนิด คือ 1. มัคคุเทศก์ทั่วไป ( ต่างประเทศ )
2. มัคคุเทศก์ทั่วไป ( ไทย )
54. มัคคุเทศก์ที่นำเที่ยวได้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถนำเที่ยวได้ทั่วราชอาณาจักร มีบัตรสีอะไร
ก. บัตรสีบรอนซ์เงิน ค. บัตรสีบรอนซ์ทอง
ข. บัตรสีชมพู ง. บัตรสีฟ้า
ตอบ ค. บัตรสีบรอนซ์ทอง
55. มัคคุเทศก์ที่นำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ สามารถนำเที่ยวได้ทั่วราชอาณาจักรมีบัตรสีอะไร
ก. บัตรสีบรอนซ์เงิน ค. บัตรสีบรอนซ์ทอง
ข. บัตรสีชมพู ง. บัตรสีฟ้า
ตอบ ก. บัตรสีบรอนซ์เงิน
56. มัคคุเทศก์เฉพาะ มีกี่ชนิด
ก. 5 ชนิด ค. 3 ชนิด
ข. 2 ชนิด ง. 8 ชนิด
ตอบ ง. 8 ชนิด ได้แก่ 1. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ต่างประเทศ เฉพาะพื้นที่)
2. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ไทย เฉพาะพื้นที่) 3. มัคคุเทศก์เฉพาะ (เดินป่า)
4. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ศิลปวัฒนธรรม) 5. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทางทะเล)
6. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทะเลชายฝั่ง) 7. มัคคุเทศก์เฉพาะ (แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ)
8. มัคคุเทศก์เฉพาะ (วัฒนธรรมท้องถิ่น)
57. มัคคุเทศก์เฉพาะ (เดินป่า) มีบัตรสีอะไร
ก. สีแดง ค. สีชมพู
ข. สีน้ำตาล ง. สีเขียว
ตอบ ง. สีเขียว
58. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทางทะเล) มีบัตรสีอะไร
ก. สีส้ม ค. สีชมพู
ข. สีน้ำตาล ง. สีฟ้า
ตอบ ก.สีส้ม
59. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทะเลชายฝั่ง) มีบัตรสีอะไร
ก. สีส้ม ค. สีชมพู
ข. สีเหลือง ง. สีฟ้า
ตอบ ข.สีเหลือง
60. มัคคุเทศก์เฉพาะ (วัฒนธรรมท้องถิ่น) มีบัตรสีอะไร
ก. สีส้ม ค. สีน้ำตาล
ข. สีแดง ง. สีฟ้า
ตอบ ค. สีน้ำตาล
61. มัคคุเทศก์เฉพาะ (แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ) มีบัตรสีอะไร
ก. สีส้ม ค. สีม่วง
ค. สีแดง ง. สีฟ้า
ตอบ ค. สีม่วง
62. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ศิลปวัฒนธรรม) มีบัตรสีอะไร
ก. สีส้ม ค. สีม่วง
ข. สีฟ้า ง. สีแดง
ตอบ ง. สีแดง
63. มัคคุเทศก์ที่นำเที่ยวเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย เฉพาะจังหวัดที่ระบุไว้บนบัตรและจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อ มีบัตรสีอะไร
ก. สีชมพู ค. สีฟ้า
ข. สีฟ้า ง. สีแดง
ตอบ ค. สีฟ้า
64. มัคคุเทศก์ที่นำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศเฉพาะจังหวัดที่ระบุไว้บนบัตรและจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อมีบัตรสีอะไร
ก. สีชมพู ค. สีฟ้า
ข. สีฟ้า ง. สีแดง
ตอบ ก. สีชมพู
65. ข้อใดคือหน้าที่ของมัคคุเทศก์
ก. มัคคุเทศก์ต้องไม่บรรยาย อธิบาย หรือบอกกล่าวเรื่องราวที่ไม่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ประเทศชาติ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย
ข. มัคคุเทศก์ต้องไม่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
ค. มัคคุเทศก์ต้องติดเครื่องหมายแสดงการเป็นมัคคุเทศก์ ซึ่งได้รับใบอนุญาตและติดใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ไว้ที่อกเสื้อ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
66. ข้อใด ไม่ใช่ จรรยาบรรณของมัคคุเทศก์
ก. ต้องไม่ปฏิบัติตนฝ่าฝืนศีลธรรม
ข. ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยซื่อสัตย์สุจริต
ค. ต้องแต่งกายสุภาพและเหมาะสมกับสถานที่
ง. ต้องไม่ปฏิบัติตนขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง
ตอบ ค. ต้องแต่งกายสุภาพและเหมาะสมกับสถานที่
ก. ประกาศกระทรวง ค. พระราชบัญญัติ
ข. กฎกระทรวง ง. พระราชกฤษฎีกา
ตอบ ข.กฎกระทรวง
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ตอบ ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการทูต
วีซ่าชนิดนี้จะออกให้สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางฑูต เพื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมวิธีการขอกระทำได้โดยการยื่นคำขอ วีซ่าที่สถานฑูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ แต่หากผู้ถือหนังสือเดินทางฑูตของประเทศนั้นเป็นประเทศที่มีความตกลงกับประเทศไทยว่าด้วย การยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน ก็จะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า คนต่างด้าวประเภทนี้เมื่อเดินทางเข้ามาใน ราชอาณาจักรจะได้รับการอนุญาตให้อยู่ต่อในขั้นต้น ณ ด่านตรวจ เป็นเวลา 90 วัน
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ตอบ ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ
วีซ่าชนิดนี้ออกให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการเพื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ซึ่งมีวิธีการขอวีซ่าหรือมีการยกเว้น ไม่ต้องมีวีซ่าสำหรับบางประเทศที่มีข้อตกลงระหว่างกัน ในทำนองเดียวกันกับวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ผู้ถือวีซ่าชนิดนี้เมื่อเดินทางเข้ามาใน ราชอาณาจักรจะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 90 วัน ณ ด่านตรวจ
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ตอบ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
วีซ่าชนิดนี้คนต่างชาติจะต้องไปยื่นคำขอที่สถานเอกอัครราชฑูต หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยต้องระบุแจ้งเหตุผลลงในแบบคำขอวีซ่า ด้วยว่าต้องการจะเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยความมุ่งหมายใด ซึ่งทางราชการได้กำหนดรหัสเป็นอักษรย่อภาษาอังกฤษไว้ สำหรับใส่กำกับลงไปในวีซ่า ตามแต่ละเหตุผลที่ขอวีซ่า ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบถึงเหตุผลหรือความมุ่งหมายตั้งแต่แรกของคนต่างด้าวว่า ต้องการจะขอเข้าประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์ใด และยังจะเป็นประโยชน์ในการควบคุมทางทะเบียนและการสถิติอีกด้วย
71. วีซ่าประเภทใดที่สามารถใช้ยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานได้
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ตอบ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
NON-IMMIGRANT VISA นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ชนิดเดียวเท่านั้น ที่สามารถใช้ยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานได้ และ การที่คนต่างชาติจะขอรับใบอนุญาตทำงานได้หรือไม่นั้น จะต้องถือปฏิบัติให้เป็นไปตาม ที่พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2521 มาตรา 11 ได้บัญญัติไว้
72. TOURIST VISA คือ
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการฑูต ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ตอบ ง.วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
73. วีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยจะได้รับอนุญาต ณ ด่านตรวจ ให้อยู่เป็นเวลากี่วัน
ก. 20 วัน ค. 30 วัน
ข. 40 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ง. 60 วัน
โดยวีซ่าชนิดนี้ต้องยื่นคำขอจากนอก ประเทศไทยเช่นเดียวกับ NON-IMMIGRANT VISA เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยจะได้รับอนุญาต ณ ด่านตรวจ ให้อยู่เป็นเวลา 60 วัน และขออยู่ต่อได้อีก 30 วัน (เฉพาะประเทศศรีลังกา บังคลาเทศ อินเดีย ปากีสถาน เนปาล อิหร่าน ไนจีเรีย โตโก ยูกันดา จะขอเลื่อนการเดินทางออกไปได้อีกเพียง 7 วัน ตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
74. วีซ่าประเภทใดที่ออกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่ประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศ และจะกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ตามเดิม
ก. วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร ง.วีซ่าประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนด
ตอบ ง. วีซ่าประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนด (NON-QUOTA IMMIGRANT VISA)
วีซ่าประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนด จำนวนคนต่างด้าว ซึ่งจะเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี (NON-QUOTA IMMIGRANT VISA)วีซ่าชนิดนี้จะออกให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่ประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศ และจะกลับเข้า
มามีถิ่นที่อยู่ตามเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น Re-Entry Visa ของผู้มีถิ่นที่อยู่ โดยทำเป็นตราประทับลงไปในหนังสือเดินทาง และต้องใช้คู่กันกับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ซึ่งต้องมีการสลักหลัง(Endorsement) ด้วยทุกครั้งที่เดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ค่าธรรมเนียมของวีซ่าชนิดนี้เป็นเงินจำนวน 1,900 บาท สำหรับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร 1 ครั้ง และจำนวน 3,800 บาท
สำหรับการเดินทางกลับเข้ามาหลายครั้ง โดยจะมีกำหนดอายุการใช้ตามอายุของสลักหลังในใบสำคัญถิ่นที่อยู่
75. วีซ่าประเภทใดที่ออกให้แก่ผู้ที่ถือหนังสือทางราชการ เพื่อจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วันโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม
ก. วีซ่าประเภทอัธยาศัยไมตรี ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร ง.วีซ่าประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนด
ตอบ ก. วีซ่าประเภทอัธยาศัยไมตรี (COURTESY VISA)
76. TRANSIT VISA คือ
ก. วีซ่าประเภทอัธยาศัยไมตรี ค.วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว
ข. วีซ่าประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร ง.วีซ่าประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนด
ตอบ ข.วีซ่าประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร
การยื่นคำขอวีซ่าชนิดนี้ก็เหมือนกับ การขอ Tourist Visa ทุกประการ คงมีข้อต่างกันเฉพาะชื่อวีซ่า และเรื่องระยะเวลาการอนุญาตให้พำนัก อยู่ในประเทศไทยขณะเมื่อผ่านด่านตรวจ กับจำนวนเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าเท่านั้น วีซ่าชนิดนี้เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่เป็นเวลา 30 วัน ณ ด่านตรวจ และสามารถยื่นคำขออยู่ต่อได้อีก 30 วัน (เฉพาะประเทศศรีลังกา บังคลาเทศ อินเดีย ปากีสถาน เนปาล อิหร่าน ไนจีเรีย โตโก ยูกันดา จะขอเลื่อนการเดินทางออกไปได้อีกเพียง 7 วัน เช่นเดียวกับพวกที่มี Tourist Visa) แต่ในกรณีจำเป็นก็อาจคำขออยู่ต่อได้ เช่นเดียวกับ Tourist Visa ดังได้กล่าวมาแล้ว วีซ่าชนิดนี้ไม่สามารถใช้ขอใบอนุญาตทำงานได้ แต่อาจขอเปลี่ยนเป็น NON-IMMIGRANT VISA เช่นเดียวกับ TOURIST VISA
77. วีซ่าพิเศษที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ในการเดินทางเข้ายุโรป คือ
ก. SCHENGEN VISA ค. NON-QUOTA IMMIGRANT VISA
ข. TRANSIT VISA ง. TOURIST VISA
ตอบ ก. SCHENGEN VISA
ซึ่งทั้ง 26 ประเทศ ทำความตกลงกันโดยการออกวีซ่าพิเศษที่มีชื่อว่า Schengen Visa (เชงเก้น วีซ่า) เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ในการเดินทางเข้ายุโรป ซึ่งคนไทยก็มีสิทธิ์ขอวีซ่าชนิดนี้ โดยผู้ที่มี Schengen Visa สามารถเดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่ากับประเทศอื่น ๆ อีก และสามารถพำนักอยู่ได้รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน และการยื่นขอ Schengen Visa จะต้องไปขอที่สถานฑูตของประเทศที่คุณจะไปพำนักอยู่นานที่สุด แต่หากไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ก็ต้องไปขอที่สถานฑูตของประเทศแรกที่จะเดินทางเข้าไป
78. ประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่ามีกี่ประเทศ
ก. 20 ประเทศ ค. 22 ประเทศ
ข. 10 ประเทศ ง. 15 ประเทศ
ตอบ ค. 22 ประเทศ
79. วีซ่า คืออะไร
ก. หนังสือเดินทาง
ข. เอกสารที่ทางราชการออกให้
ค. เอกสารสำคัญในการเดินทางไปยังประเทศอื่น
ง. เอกสารที่ประเทศใดประเทศหนึ่งได้ออกให้ภายใต้การพิจารณาของประเทศนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ตอบ ง. เอกสารที่ประเทศใดประเทศหนึ่งได้ออกให้ภายใต้การพิจารณาของประเทศนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
พาสปอร์ต คือ หนังสือเดินทาง เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ พาสปอร์ตบ่งบอกถึงลักษณะส่วนบุคคลของผู้ถือ สัญชาติของผู้ถือ และเป็นเอกสารสำคัญในการเดินทางไปยังประเทศอื่น
วีซ่า คือ เอกสารที่ประเทศใดประเทศหนึ่งได้ออกให้ภายใต้การพิจารณาของประเทศนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว เพื่อเป็นการอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวบุคคลหนึ่งสามารถเดินทางเข้าประเทศนั้นได้ ภายใต้ช่วงเวลาและภายใต้ขอบข่ายของจุดประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ โดยปกติแล้วจะมีการประทับตราที่พาสปอร์ต บางประเทศอาจเป็นในรูปแบบแผ่นสติ๊กเกอร์ หรืออาจเป็นในรูปแบบของเอกสารที่เป็นใบแยกต่างหาก
80. ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวพักอาศัยไม่เกิน 60 วัน กี่บาท
ก. 1,000 บาท ค. 2,000 บาท
ข. 1,500 บาท ง. 5,000 บาท
ตอบ ก. 1,000 บาท
81. การเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ถ้ามีการขอตกลงของทั้งสองประเทศ จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 60 วัน
ข. 20 วัน ง. 90 วัน
ตอบ ก. 30 วัน
ก. เพื่อการเล่นกีฬา ค. เพื่อการเดินทางผ่านราชอาณาจักร
ข. เพื่อการธุรกิจ ง. เพื่อการท่องเที่ยว
ตอบ ง. เพื่อการท่องเที่ยว
ก. วีซ่าประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร ค. วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว
ข. วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ง. ถูกทั้ง ข และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข และ ค
พระราชบัญญัติ
นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ก. ท.ท.ช. ค. นทช.
ข. กทช. ง. ทช.
ตอบ ก. ท.ท.ช.
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก.นายกรัฐมนตรี
มาตรา ๕ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “ท.ท.ช.” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินเก้าคน เป็นกรรมการ
ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ก. จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ข. ดำเนินการเพื่อให้มีการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
ค. กำหนดและจัดให้มีการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๐ ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๒) จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
(๓) เสนอนโยบายและแนวทางการจัดทำความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรี
(๔) ดำเนินการเพื่อให้มีการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
(๕) พิจารณาให้ความเห็นชอบและกำกับดูแลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
(๖) กำหนดและจัดให้มีการรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๗) อำนวยการ ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ และนโยบายหรือมาตรการเพื่อการส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว
(๘) กำกับการจัดการและบริหารกองทุน
(๙) ปฏิบัติการอื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ก. เป็นศูนย์กลางประสานงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามนโยบายและแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติในทุกภาคส่วน
ข. ศึกษา วิเคราะห์ และพิจารณากลั่นกรองแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวเสนอต่อคณะกรรมการ
ค. จัดหรือสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว
ง. จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ตอบ ง. จัดทำและเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ก. 30 คน ค. ไม่เกิน 30 คน
ข. 25 คน ง. 20 คน
ตอบ ค.ไม่เกิน 30 คน
ก. คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว
ข. คณะกรรมการ ท.ท.ช.
ค. สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ง. กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
ตอบ ก. คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว
ก. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาการท่องเที่ยว
ข. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนการพัฒนาทักษะด้านการบริหาร การตลาด หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรท่องเที่ยวในชุมชน
ค. ใช้เป็นทุนหมุนเวียนการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้
ข. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้
ค. ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๓ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
(๑) เงินและทรัพย์สินที่โอนมาจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยตามมาตรา ๓๑
(๒) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้
(๓) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้
(๔) ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
(๕) เงินและทรัพย์สินอื่นที่ตกเป็นของกองทุน
เงินและทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งให้ตกเป็นของสำนักงานเพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุน โดยไม่ต้องนำส่งคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดิน
ก. เป็นเงินอุดหนุนหรือเงินให้กู้ยืมแก่หน่วยงานของรัฐ
ข. เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือหรือสนับสนุนการท่องเที่ยว
ค. เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
ข. ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ค. ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ง. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ตอบ ง. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ก. วางระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานกองทุน
ข. วางระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายเงินกองทุน
ค. พัฒนาให้ความรู้และทักษะด้านการท่องเที่ยวแก่บุคลากรในหน่วยงานของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ควบคุม ติดตามผล และประเมินผลการใช้จ่ายเงินกองทุน
ตอบ ค.พัฒนาให้ความรู้และทักษะด้านการท่องเที่ยวแก่บุคลากรในหน่วยงานของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ก. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ค. นายชวน หลีกภัย
ข. พัน.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ง. นายสมัคร สุนทรเวช
ตอบ ก. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
พระราชบัญญัติ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒
1. ข้อใดคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ก. ธุรกิจโรงแรมนักท่องเที่ยว
ข. ธุรกิจนำเที่ยว
ค. ธุรกิจการขายของที่ระลึกหรือสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
“อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” หมายความว่า อุตสาหกรรมที่จัดให้มีหรือให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรโดยมีค่าตอบแทน และหมายความรวมถึง
(๑) ธุรกิจนำเที่ยว
(๒) ธุรกิจโรงแรมนักท่องเที่ยว
(๓) ธุรกิจภัตตาคาร สถานบริการและสถานที่ตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยว
(๔) ธุรกิจการขายของที่ระลึกหรือสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยว
(๕) ธุรกิจการกีฬาสำหรับนักท่องเที่ยว
(๖) การดำเนินงานนิทรรศการ งานแสดง งานออกร้าน การโฆษณาเผยแพร่ หรือการดำเนินงานอื่นใดโดยมีความมุ่งหมายเพื่อชักนำหรือส่งเสริมให้มีการเดินทางท่องเที่ยว
2. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรียกโดยย่อว่าอะไร
ก. ททท. ค. กทท.
ข. ททช. ง. ทหท.
ตอบ ก. ททท.
3. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ททท.
ก. ส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจนการประกอบอาชีพของคนไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ข. ริเริ่มให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยว และเพื่อพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
ค. อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๘ ททท. มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(๑) ส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจนการประกอบอาชีพของคนไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๒) เผยแพร่ประเทศไทยในด้านความงามของธรรมชาติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม การกีฬา และวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ตลอดจนกิจการอย่างอื่นอันจะเป็นการชักจูงให้มีการเดินทางท่องเที่ยว
(๓) อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
(๔) ส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความเป็นมิตรไมตรีระหว่างประชาชนและระหว่างประเทศโดยอาศัยการท่องเที่ยว
(๕) ริเริ่มให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยว และเพื่อพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
4. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของ ททท.
ก. ให้คำปรึกษา แนะนำ ร่วมมือและประสานงานกับส่วนราชการ องค์การ สถาบัน นิติบุคคลและเอกชน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
ข. ส่งเสริม ร่วมมือ หรือดำเนินการในการฝึกอบรมและให้การศึกษาวิชาการต่าง ๆ เพื่อสร้างบุคลากรให้ได้มาตรฐานและเพียงพอในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ค. สำรวจและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ จากส่วนราชการ องค์การสถาบัน นิติบุคคลและเอกชนผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ในการจัดทำสถิติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๙ ให้ ททท. มีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๘ และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) ให้คำปรึกษา แนะนำ ร่วมมือและประสานงานกับส่วนราชการ องค์การ สถาบัน นิติบุคคลและเอกชน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
(๒) ส่งเสริม ร่วมมือ หรือดำเนินการในการฝึกอบรมและให้การศึกษาวิชาการต่าง ๆ เพื่อสร้างบุคลากรให้ได้มาตรฐานและเพียงพอในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๓) ส่งเสริมการทัศนศึกษา
(๔) สำรวจและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ จากส่วนราชการ องค์การสถาบัน นิติบุคคลและเอกชนผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ในการจัดทำสถิติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๕) สำรวจ กำหนดพื้นที่และสถานที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่ต้องสงวนไว้เป็นของรัฐและให้อยู่ในความควบคุมดูแลของ ททท. โดยให้จัดทำเป็นพระราชกฤษฎีกา
(๖) สำรวจ วางแผนและดำเนินการ จัดสร้าง ส่งเสริม อนุรักษ์ พื้นฟู บูรณะ หรือพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนทรัพยากรทางการท่องเที่ยวและคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ
(๗) ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่าที่จำเป็นรวมตลอดถึงการลงทุน หรือร่วมทุนเพื่อเป็นการริเริ่มให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวหรือพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
(๘) กู้หรือยืมเงินภายในและภายนอกราชอาณาจักร
(๙) ให้กู้หรือให้ยืมเงินโดยมีหลักประกันด้วยบุคคลหรือทรัพย์สินเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๑๐) ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุนหรือร่วมทุนในกิจการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๑๑) ถือกรรมสิทธิ์ หรือมีสิทธิครอบครองหรือมีทรัพยสิทธิต่าง ๆ สร้าง ซื้อ จัดหา ขาย จำหน่าย เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รับจำนำ รับจำนอง ทำการแลกเปลี่ยน โอน รับโอน หรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งในและนอกราชอาณาจักร ตลอดจนรับทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
(๑๒) กระทำกิจการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเนื่องในการจัดให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของ ททท.
5. ข้อใด ไม่ใช่ ทุน ของ ททท.
ก. ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
ข. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
ค. เงินที่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดินให้เป็นทุน หรือเพื่อดำเนินงานหรือเพื่อขยายกิจการ
ง. เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนตามมาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๒ เมื่อได้หักหนี้สินออกแล้ว
ตอบ ก. ดอกผลหรือรายได้จากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
6. ข้อใดคือรายได้ของ ททท.
ก. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ข. รายได้จากการดำเนินกิจการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ค. รายได้จากการลงทุนหรือการร่วมทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๑ ททท. อาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
(๑) รายได้จากทรัพย์สินของ ททท.
(๒) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
(๓) รายได้จากการดำเนินกิจการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๔) รายได้จากการลงทุนหรือการร่วมทุน
(๕) รายได้อื่น
7. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ในกรณีที่ททท. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการใดได้
ก. กู้ยืมเงินหรือให้กู้ยืมเงินมีจำนวนเกินคราวละห้าล้านบาท
ข. ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน
ค. จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีราคาเกินสองล้านบาท
ง. จำหน่ายทรัพย์สินอันมีราคาเกินหนึ่งล้านบาทจากบัญชีเป็นสูญ
ตอบ ค. จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีราคาเกินสองล้านบาท
มาตรา ๑๗ ททท. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการต่อไปนี้ได้
(๑) กู้ยืมเงินหรือให้กู้ยืมเงินมีจำนวนเกินคราวละห้าล้านบาท
(๒) ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน
(๓) จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีราคาเกินหนึ่งล้านบาท
(๔) จำหน่ายทรัพย์สินอันมีราคาเกินหนึ่งล้านบาทจากบัญชีเป็นสูญ
(๕) ลงทุนหรือร่วมทุนในกิจการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีจำนวนเงินเกินห้าล้านบาท
8. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ง. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
9. คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 1 ปี ค. 3 ปี
ข. 2 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ข.2 ปี
10. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการ ททท.
ก. กำหนดนโยบายและอนุมัติแผนงานของ ททท.
ข. ออกข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานต่าง ๆ
ค. ออกข้อบังคับกำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และเงินอื่น ๆ ของพนักงานและลูกจ้าง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ ททท. อำนาจและหน้าที่เช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) กำหนดนโยบายและอนุมัติแผนงานของ ททท. เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๒) ออกข้อบังคับหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรา ๘ และมาตรา ๙
(๓) ออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุม และดำเนินกิจการของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
(๔) ออกข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานต่าง ๆ
(๕) ออกข้อบังคับกำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และเงินอื่น ๆ ของพนักงานและลูกจ้าง
(๖) ออกข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน การเลื่อนเงินเดือนหรือค่าจ้าง ระเบียบวินัย การลงโทษ และการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง
(๗) ออกระเบียบว่าด้วยการร้องทุกข์ของพนักงานและลูกจ้าง
(๘) ออกข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์หรือการสงเคราะห์อื่นเพื่อสวัสดิการของพนักงานและลูกจ้างและครอบครัว โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
(๙) ออกข้อบังคับว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ เบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าทำงานล่วงเวลา เบี้ยประชุม และการจ่ายเงินอื่น ๆ
(๑๐) ออกระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบพนักงานและลูกจ้าง
11. ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการ ททท.
ก. แต่งตั้งคณะบุคคลเป็นกรรมการเฉพาะกิจเพื่อปฏิบัติการใด ๆ อันจะเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ข. ออกข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน การเลื่อนเงินเดือนหรือค่าจ้าง ระเบียบวินัย การลงโทษ และการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง
ค. วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ททท. โดยไม่ขัดหรือแย้งต่อระเบียบข้อบังคับ และนโยบายที่คณะกรรมการกำหนดไว้
ง. วางรูปการจัดองค์กร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ตอบ ข.ออกข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน การเลื่อนเงินเดือนหรือค่าจ้าง ระเบียบวินัย การลงโทษ และการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง
มาตรา ๒๘ ให้ผู้ว่าการมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) วางรูปการจัดองค์กร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
(๒) บรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอน เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนให้พนักงานและลูกจ้างออกจากตำแหน่ง ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำหนด แต่ถ้าเป็นพนักงานหรือลูกจ้างชั้นที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการฝ่าย หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก่อน
(๓) วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ททท. โดยไม่ขัดหรือแย้งต่อระเบียบข้อบังคับ และนโยบายที่คณะกรรมการกำหนดไว้
(๔) แต่งตั้งคณะบุคคลเป็นกรรมการเฉพาะกิจเพื่อปฏิบัติการใด ๆ อันจะเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(๕) ดำเนินการอื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
12. ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้
ก. เพื่อจัดตั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขึ้นแทนองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว
ข. เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและดำเนินกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ค. เพื่อให้การบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวมีเอกภาพและมีความต่อเนื่องมีระบบการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ง. ถูก ทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูก ทั้ง ก และ ข
พระราชบัญญัติ
ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. ๒๕๕๑
1. “มัคคุเทศก์” หมายความว่าอย่างไร
ก. ผู้รับผิดชอบในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ
ข. ผู้ให้บริการเป็นปกติธุระในการนำนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยให้บริการเกี่ยวกับคำแนะนำและความรู้ด้านต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยว
ค. ผู้ให้บริการนำเที่ยวแต่ไม่ได้ให้คำแนะนำและความรู้ด้านต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยว
ง. ผู้เดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพื่อประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจ การศึกษาหาความรู้ การบันเทิง หรือการอื่นใด
ตอบ ข. ผู้ให้บริการเป็นปกติธุระในการนำนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยให้บริการเกี่ยวกับคำแนะนำและความรู้ด้านต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยว
2. ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ข. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
3. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ข. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ตอบ ข.ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์คณะหนึ่ง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการ ท่องเที่ยว เป็นรองประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ และผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนเจ็ดคน เป็นกรรมการ ให้นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ กรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งตั้งจากผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยห้าคน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นหรือเคยเป็นอาจารย์สอนในสถาบันอุดมศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในวิชาการท่องเที่ยวหนึ่งคนและวิชามัคคุเทศก์หนึ่งคน กรรมการผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยห้าคนตามวรรคสอง จะเป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือไม่ก็ได้ โดยอย่างน้อยให้แต่งตั้งจากผู้แทนผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสองคนและผู้แทนมัคคุเทศก์สองคน
4. คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ก.2 ปี
5. ข้อใดคือหน้าที่ของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
ก. กำหนดแผนงานและมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
ข. ออกระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐาน การปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวที่จะพึงปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยว
ค. ประกาศกำหนดเขตพื้นที่ในท้องถิ่นหรือชุมชนใดเพื่อให้มัคคุเทศก์ทำหน้าที่มัคคุเทศก์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๒ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดแผนงานและมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
(๒) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัตินี้
(๓) ออกระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐาน การปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวที่จะพึงปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยว และความรับผิดชอบที่มีต่อนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตลอดจนค่าตอบแทนหรือความคุ้มครองที่มัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวจะพึงได้รับจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
(๔) ประกาศกำหนดเขตพื้นที่ในท้องถิ่นหรือชุมชนใดเพื่อให้มัคคุเทศก์ซึ่งได้รับการยกเว้นคุณสมบัติตามมาตรา ๕๑ ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ รวมทั้งกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือชุมชนนั้น ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
(๕) ออกระเบียบเกี่ยวกับการเปิดบัญชีเงินฝากและการเบิกจ่ายจากบัญชีเงินฝากสำหรับหลักประกันที่เป็นเงินสดตามมาตรา ๑๘ รวมทั้งการคืนหลักประกันตามมาตรา ๓๙
(๖) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสอบหาข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยของนายทะเบียนตามมาตรา ๔๐
(๗) ออกระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจ่ายเงินชดเชยให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความเสียหายจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๔๑
(๘) พิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้
(๙) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษาและการบริหารเงินและทรัพย์สินของกองทุนตามมาตรา ๗๑
(๑๐) ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี
6. ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย
ค. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ง. มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 บริบูรณ์
ตอบ ง. มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 บริบูรณ์
7. ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ก. เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ข. ถ้าเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ทุนของบริษัทไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
ค. ถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
8. เมื่อนายทะเบียนพิจารณาเห็นว่าผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามให้นายทะเบียนมีหนังสือแจ้งเหตุแห่งการไม่ออกใบอนุญาตให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทราบภายในกี่วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอรับใบอนุญาต
ก. 20 วัน ค. 60 วัน
ข. 30 วัน ง. 45 วัน
ตอบ ข.30 วัน
9. จากข้อ 8 ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการภายในกี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ก. 20 วัน ค. 60 วัน
ข. 30 วัน ง. 45 วัน
ตอบ ข.30 วัน
10. ในการโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จัดทำเป็นเอกสารซึ่งมีรายละเอียดใด
ก. ระยะเวลาที่ใช้ในการนำเที่ยว
ข. ชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และสถานที่และเลขที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ค. ค่าบริการและวิธีการชำระค่าบริการ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๖ ในการโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จัดทำเป็นเอกสารซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และสถานที่และเลขที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
(๒) ระยะเวลาที่ใช้ในการนำเที่ยว
(๓) ค่าบริการและวิธีการชำระค่าบริการ
(๔) ลักษณะและประเภทของยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง
(๕) จุดหมายปลายทางและที่แวะพัก รวมทั้งสถานที่สำคัญในการนำเที่ยว
(๖) ลักษณะและประเภทของที่พัก และจำนวนครั้งของอาหารที่จัดให้
(๗) จำนวนมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวในกรณีที่จัดให้มีมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยว
(๘) จำนวนขั้นต่ำของนักท่องเที่ยวสำหรับการนำเที่ยว ในกรณีมีเงื่อนไขว่าต้องมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าจำนวนที่กำหนด
11. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสิ้นสุดลงเมื่อใด
ก. เมื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตายหรือสิ้นสุดความเป็นนิติบุคคล
ข. เมื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลิกประกอบกิจการตามมาตรา ๓๘
ค. เมื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๔๖
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
12. นายทะเบียนมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ไม่เกินครั้งละเท่าใด
ก. 2 เดือน ค. 6 เดือน
ข. 5 เดือน ง. 3 เดือน
ตอบ ค.6 เดือน
13. นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้เมื่อปรากฏว่าผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวปฏิบัติอย่างไร
ก. ประพฤติหรือปฏิบัติการใดอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวหรือธุรกิจนำเที่ยวอย่างร้ายแรง
ข. ต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการค้า หรือความผิดฐานชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ หรือยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา
ค. ไม่ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวและเงินเพิ่มจนพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๖ ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้เมื่อปรากฏว่าผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
(๑) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๖ (๑) หรือมาตรา ๑๗ (๑) หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๖ (๒) (ก) (ข) (ง) (จ) หรือ (ฉ) หรือมาตรา ๑๗ (๒)
(๒) ไม่ชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวและเงินเพิ่มจนพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๓๕ วรรคสาม
(๓) เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา ๔๕ มาแล้ว และภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนั้น มีกรณีที่อาจถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอีก ไม่ว่าจะเป็นเหตุเดียวกันหรือไม่ก็ตาม
(๔) ประพฤติหรือปฏิบัติการใดอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวหรือธุรกิจนำเที่ยวอย่างร้ายแรง และนายทะเบียนได้ตักเตือนและสั่งระงับหรือให้แก้ไขแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ หรือ
(๕) ต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการค้า หรือความผิดฐานชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ หรือยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
14. ผู้ใดประสงค์จะเป็นมัคคุเทศก์ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ต่อใคร
ก. นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว
ข. ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
ค. คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
ง. สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
ตอบ ก. นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว
15. ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ค. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
ง. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขามัคคุเทศก์หรือสาขาการท่องเที่ยวที่มีวิชาเกี่ยวกับมัคคุเทศก์
ตอบ ข. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
16. ใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์มีอายุกี่ปี
ก. 3 ปี ค. 5 ปี
ข. 4 ปี ง. 6 ปี
ตอบ ค. 5 ปี
17. ใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์สิ้นสุดลงเมื่อมัคคุเทศก์
ก. ตาย ค. ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ข. ไม่ได้รับการต่ออายุใบอนุญาต ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
18. นายทะเบียนมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ได้ไม่เกินครั้งละเท่าใด
ก. 3 เดือน ค. 5 เดือน
ข. 4 เดือน ง. 6 เดือน
ตอบ ง. 6 เดือน
19. นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ได้เมื่อปรากฏว่ามัคคุเทศก์เป็นอย่างไร
ก. ขาดคุณสมบัติ
ข. เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ค. ประพฤติหรือปฏิบัติการใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวหรือธุรกิจนำเที่ยวอย่างร้ายแรง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
20. “กองทุนคุ้มครองธุรกิจนำเที่ยว” จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ก. ใช้เป็นเงินทดรองจ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่งได้รับความเสียหายจากการที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยว
ข. ใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียนบริหารจัดการในกองทุน
ค. ใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ถูกหลวกลวงของมิจฉาชีพ
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ก. ใช้เป็นเงินทดรองจ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวซึ่งได้รับความเสียหายจากการที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยว
21. ผู้ใดทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
22. มัคคุเทศก์ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดหรือไม่ติดบัตรประจำตัวเป็นมัคคุเทศก์ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ค. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ง. ปรับไม่เกิน 3,000 บาท
ตอบ ข. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
23. ผู้ใดทำหน้าที่เป็นผู้นำเที่ยวโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเที่ยวต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 2 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
24. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ฉบับละกี่บาท
ก. 3,000 บาท ค. 2,000 บาท
ข. 1,500 บาท ง. 2,500 บาท
ตอบ ก. 3,000 บาท
25. ใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ฉบับละกี่บาท
ก. 500 บาท ค. 1,500 บาท
ข. 1,000 บาท ง. 800 บาท
ตอบ ค. 1,500 บาท
26. ใบแทนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ฉบับละกี่บาท
ก. 500 บาท ค. 1,500 บาท
ข. 1,000 บาท ง. 800 บาท
ตอบ ข. 1,000 บาท
27. ใบแทนใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ฉบับละกี่บาท
ก. 500 บาท ค. 1,500 บาท
ข. 1,000 บาท ง. 800 บาท
ตอบ ก. 500 บาท
28. ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายสองปี ครั้งละกี่บาท
ก. 3,000 บาท ค. 1,500 บาท
ข. 1,000 บาท ง. 800 บาท
ตอบ 1,500 บาท
29. การต่ออายุใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ครั้งละกี่บาท
ก. 500 บาท ค. 1,500 บาท
ข. 1,000 บาท ง. 800 บาท
ตอบ ค. 1,500 บาท
30. ใครคือผู้รับสนองพระบรมราชโองการพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ค. นายชวน หลีกภัย
ข. พัน.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ง. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ตอบ ก.พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์