แนวข้อสอบสหกรณ์
1. จงอธิบายสาระสำคัญของข้อความดังต่อไปนี้
1.1 นางสาวม้วยมรณ์ นอนตื่นสาย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจในเรื่องของสหกรณ์ แต่เธอยังขาดความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ เธอมักจะเกิดคำถามในหัวใจขึ้นเสมอว่า "สกรณ์คืออะไร?" ในฐานะที่ท่านเป็นเพื่อนรักของนางสาวม้วยมรณ์ ท่านจะช่วยตอบข้อสงสัยของเธอได้อย่างไร (25 คะแนน)
ตอบ สหกรณ์ คือ องค์การปกครองตนเองของบรรดาบุคคลซึ่งรวมกลุ่มกันโดยความสมัครใจ เพื่อสนองความต้องการอันจำเป็น และความหวังร่วมกันทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยการดำเนินวิสาหกิจที่พวกเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน แ ละควบคุมตามหลักประชาธิปไตย
1.2 สหกรณ์มีความแตกต่างจากบริษัทหรือไม่ ถ้ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จงอธิบาย (25 คะแนน)
ตอบ ข้อแตกต่างระหว่าง บริษัทฯ และ สหกรณ์
(1) วิธีการที่จะนำพากันไปสู่ที่ใหม่ ที่ทราบกันว่ามี 3 วิธี คือ
1.1 รูปแบบมูลนิธิฯ ไม่ทำเพราะติดข้อกฎหมายและเวลา
1.2 รูปแบบสหกรณ์ ไม่ทำเพราะไม่มีคนรู้จริง และเข้าใจเอาเองว่าจัดตั้งยาก
1.3 รูปแบบบริษัทฯ ซึ่งดำเนินการอยู่ จากความคุ้นเคย
1- รูปแบบบริษัทฯ จะแตกต่างกับบริษัทบางกระเจ้า อย่างไร เพราะกรรมสิทธิ์ก็ยังคงเป็นของบุคคล 7 - 20 คนเท่านั้น จะไปบอกใคร ได้อย่างไรว่าเราเป็นชุมชน บอกคนข้างนอกก็เข้าใจว่าเป็นรูปแบบบริษัทฯ ต้องหวังผลกำไรอยู่ดี
2- รูปแบบบริษัทฯ ซึ่งสามารถแก้ไขข้อกำหนด กฎระเบียบต่างๆ ของบริษัทได้ ถึงจะเขียนไว้ดีแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่ผิดกฎหมาย
3- เป็นรูปแบบบริษัทฯ ที่สลายตัวเองภายใน 7 ปี เพื่อเป็นอย่างอื่นซึ่งยังไม่ชัดเจน พวกเราที่ฝากชีวิตการศึกษาของลูกไว้กับพวกท่าน
จะคิดอย่างไร จะเป็นอย่างไรกันต่อไปอีก 7ปีข้างหน้า คนที่ให้กู้ยืมเงินจะคิดอย่างไร จะได้ดอกเบี้ย จะได้เงินต้นคืนอย่างไร ถ้าเกิน 7ปี
4- เป็นรูปแบบบริษัทฯ ที่จะไม่แสวงหาผลกำไร แล้วจะคืนเงินต้น จ่ายดอกเบี้ยอย่างไร แล้วยังต้องขึ้นค่าเทอมทุกปี
5- เป็นรูปแบบบริษัทฯ ที่พวกเราไม่มีส่วนร่วมเลย เพราะถือหุ้นก็เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ที่มีสิทธิน้อยมากในบริษัทฯ
รูปแบบสหกรณ์ เพราะสหกรณ์ จัดตั้งได้ง่ายกว่าที่คิด ในประเทศไทยเรามีสหกรณ์ที่จัดตั้งในชนบทมากมาย กฎหมายของสหกรณ์ วัตถุประสงค์ของสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสังคม แก่ บรรดาสมาชิก โดยวิธีช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามหลักสหกรณ์ อีกทั้งข้อบังคับและกฎระเบียบของสหกรณ์ยังไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง เพราะผิดกฎหมายสหกรณ์ อีกด้วย การดำเนินงานของสหกรณ์ต้องบริการสมาชิกโดยไม่หวังผลกำไร เมื่อสหกรณ์ได้จัดการขายหรือบริการ และสิ้นปีงบบัญชี ถ้าปรากฏว่าสหกรณ์มีกำไร ก็อาจเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิก แต่ต้องไม่เกินอัตรา ที่กำหนดในกฎกระทรวง
คุณค่าของสหกรณ์ (Cooperative Values) สหกรณ์อยู่บนพื้นฐานแห่งคุณค่าของการช่วยตนเอง ความรับผิดชอบต่อตนเอง ความเป็นประชาธิปไตย ความเสมอภาค ความเที่ยงธรรม และความเป็นเอกภาพ
เพราะฉะนั้นเราทุกคนจะต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ แล้วเลือกตัวแทน 10 - 15 คนเข้าไปบริหาร ใครจะมีหันมากแค่ไหนก็มีสิทธิออกเสียง ได้หนึ่งเสียงเท่านั้น จึงไม่สามารถครอบงำได้ง่ายเหมือนบริษัทฯฯสหกรณ์เป็นรูปแบบของตัวแทน จึงเหมาะสมที่จะเป็นรูปแบบของ ชุมชนของเราที่สุด
(2) ปัญหาใหญ่อันที่ 2 คือ ทุน จะเห็นว่ารูปแบบบริษัทฯ จะมีทุนประมาณ 4 ล้านบาท บวกค่าเทอมล่วงหน้า บวก เงินกู้บุคคลภายใน และน่าจะมีปัญหาในอนาคตแน่ การไม่แสวงหากำไร และการเปลี่ยนแปลงภายใน 7 ปีข้างหน้า เงินกู้และดอกเบี้ยจะทำอย่างไร จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนกัน
เพราะฉะนั้นรูปแบบสหกรณ์น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ขอยกตัวอย่างดังนี้ คือ สมมุติฐานที่วางกันไว้ว่า น่าจะมีครอบครัวที่ไปกับเรา ไม่ต่ำกว่า 200 ครอบครัว ทุกครอบครัวต้องสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ครอบครัวละ 50,000 บาทเป็นอย่างน้อย ก็จะได้เงินอย่างน้อย 10 ล้านบาท ผมคิดว่าทุกครอบครัวเต็มใจที่จะยอมจ่ายเงินค่าสมาชิกนี้ เพราะทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในสังคมชุมชนของเรา และเงิน
ค่าสมาชิกนี้ไม่สูญหายไปไหน จะได้คืนเมื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์ครบตามจำนวนที่ลงทุน โดยผลประโยชน์หรือกำไรที่เกิดขึ้น ขอมอบให้โรงเรียน เพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียนในด้านต่างๆ เช่น อาคารสถานที่, บุคคลากร, นักเรียน
- 200 ครอบครัว @ 50,000.- = 10,000,000.-
- ครอบครัวที่มีฐานะอาจช่วยซื้อหุ้นมากกว่า = 4,000,000.-
- ครอบครัวที่เป็นกรรมการ = 4,000,000.-
- เงินค่าเทอมล่วงหน้า (200 X 50,000.-) = 10,000,000.-
- เงินกู้จากสมาชิกและอื่นๆ เช่นธนาคารออมสิน = 15,000,000.-
รวม = 43,000,000.-
สถานะการเงินช่วง 4 ปีแรก จะไม่มีปัญหาไม่มีเงินออกไป เพราะสมาชิกยังไม่ลาออก (ลูกยังไม่จบ) จะมีแต่เงินเข้ามาพัฒนาโรงเรียนจากเงิน (1) เงินค่าเทอม (2) เงินสมาชิกสหกรณ์ที่เข้าใหม่ (เข้าเรียนใหม่ต้องสมัครสมาชิกสหกรณ์ อาจไม่ต้องเท่ากับสมาชิกเก่าก็ได้ คืนเงินให้เมื่อลาออก) เพราะฉะนั้นสถานะความเป็นเจ้าของโรงเรียนชุมชน จึงขึ้นอยู่กับสมาชิกปัจจุบันเป็นหลัก ย่อมต้องมีการถ่ายเทวัฒนธรรมอำนาจของ พวกเราให้คนรุ่นต่อๆ ไป รับผิดชอบต่อเสมอ
2. จงอธิบายสาระสำคัญของข้อความดังต่อไปนี้
2.1 การกำหนดปัญหาเป็นหัวใจที่สำคัญของการจัดตั้งสหกรณ์ อยากทราบว่าปัญหาสำคัญที่ควรคำนึงถึงก่อนการจัดตั้งสหกรณ์มีอะไรบ้าง? จงตอบมาอย่างน้อย 7 ประเด็น (35 คะแนน)
ตอบ หลักการสหกรณ์ คือ คำแนะนำ (Guidelines) หรือกฎทั่วไปสำหรับสหกรณ์ในการนำคุณค่าของสหกรณ์ (Cooperative Values) ไปสู่การปฏิบัติ หรืออีกนัยหนึ่งคือ แนวทางในการทำให้คุณค่าของสหกรณ์ ซึ่งเป็นนามธรรมบังเกิดผลเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ" ซึ่งประกอบด้วยหลักการที่สำคัญรวม 7 ประการ กล่าวคือ
หลักการที่1 การเป็นสมาชิกโดยสมัครใจและเปิดกว้าง
หลักการที่ 2 การควบคุมโดยสมาชิกตามหลักประชาธิปไตย
หลักการที่ 3 การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสมาชิก
หลักการที่ 4 การปกครองตนเองและความเป็นอิสระ
หลักการที่ 5 การให้การศึกษา ฝึกอบรม และสารสนเทศ
หลักการที่ 6 การร่วมมือระหว่างสหกรณ์
หลักการที่ 7 ความเอื้ออาทรต่อชุมชน
2.2 เพราะเหตุใดการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคม และการเมือง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการจัดตั้งสหกรณ์ (15 คะแนน)
ตอบ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 2 ประเภท
ปัจจัยทางเศรษฐกิจ (Economic Factors)
ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สร้างความเจริญเติบโตควรเป็นปัจจัยที่อยู่ในความครอบครอบของประเทศ นำมาผลิตได้มีปริมาณมาก คุณภาพดี ปัจจัยเหล่านั้น คือ
1) ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง ทรัพยากรป่าไม้ แร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดินและอากาศ ตลอดจนทรัพยากรทางทะเล
2) ทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง ปริมาณและคุณภาพของประชากร และความสอดคล้องการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ
3) ทุน (Capital) หมายถึง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ คือ
• สินค้าทุน หมายถึง เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ สถานที่ทำการผลิต
• ทุนทางเศรษฐกิจ หมายถึง ปัจจัยต่าง ๆ ที่สนับสนุนให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างสะดวก เช่น ถนน ท่าเรือ ไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม
• ทุนทางสังคม (Social Capital) หมายถึง การบริการต่าง ๆ เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา ความสงบเรียบร้อย
4) ผู้ประกอบการ คือ ผู้รวบรวมปัจจัยการผลิตต่าง ๆ มาใช้ในการผลิต หน้าที่ของผู้ประกอบการ คือ
5) เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง ความรู้ ทักษะ วิชาการ ในการดำเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ
ปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจจัยทางเศรษฐกิจ (Non – Economic Factors)
ปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจจัยทางเศรษฐกิจ หมายถึง ปัจจัยที่ช่วยเอื้ออำนวย หรืออุปสรรคขัดขวางต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่นทัศนคติ ค่านิยม ระบบการเมือง ประเพณี และวัฒนธรรม ปัจจัยชนิดนี้ไม่ช่วยเพิ่มผลผลิตรวมโดยตรง แต่เป็นส่วนสนับสนุนหรืออุปสรรคขัดขวางในบางโอกาส
ปัจจัยชนิดนี้จะมีอิทธิพลควบคู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยชนิดนี้ประกอบด้วย
1. ทัศนคติ (Attitude) หมายถึง ความรู้สำนึกคิดที่บุคคล มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ เช่นรู้สึกเห็นด้วย หรือรู้สึกไม่เห็นด้วย เช่น ชาวญี่ปุ่นมีทัศนคติในการบริโภคสินค้า
ที่ประเทศตนผลิต จะมีผลทำให้ประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็ว
2. ค่านิยมทางสังคม ( Social Value) หมายถึงสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกัน เช่น การส่งเสริมให้เด็กรู้จักออม ค่านิยมทางสังคมลักษณะนี้จะเป็น
อุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจากถ้าทุกคนออม เงินจะหายจากระบบการบริโภคน้อย
3. ประเพณีและวัฒนธรรม สิ่งนี้เป็นสิ่งยืดเหนี่ยวให้สังคมอยู่รวมกัน เช่น การลงแขก ในการเกี่ยวข้าวของชาวนาในสมัยก่อน
4. ระบบการเมืองและการปกครอง การเมืองและการปกครอง ออกนโยบายต่าง ๆ ผลักดันให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว
3. จงอธิบายถึงโครงสร้างของสหกรณ์ท้องถิ่น (สหกรณ์ขั้นปฐมภูมิ) มาอย่างละเอียด
ตอบ 1) โครงสร้างชุมนุมสหกรณ์ (Cooperative federation) สหกรณ์มี 3 ระดับ คือ
สหกรณ์ขั้นปฐม (อำเภอหรือท้องถิ่น) มีสมาชิกเป็นบุคคลธรรมดา มีกลุ่มตัวแทนได้ถ้าสมาชิก > 500 คน
สหกรณ์มัธยม(จังหวัด) : ชุมนุมสหกรณ์จังหวัด ประกอบด้วย สหกรณ์ระดับอำเภอ 3 สหกรณ์ ขึ้นไป ดำเนินการ เฉพาะอย่างแทนหรือเพื่อสหกรณ์ระดับอำเภอ
สหกรณ์ขั้นยอด (ระดับชาติ): ชุมนุมสหกรณ์ระดับชาติ ทำธุรกิจด้านการตลาด การจัดหาสินค้าจากผู้ผลิต
4. สหกรณ์ที่เป็นสากลสามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง? จงอธิบาย
ตอบ ประเภทของสหกรณ์ในประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีสหกรณ์อยู่ 6 ประเภท คือ
สหกรณ์การเกษตร
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้มีอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา เลี้ยงสัตว์ ทำไร่ ทำสวน ฯลฯ สหกรณ์การเกษตรนี้ได้วิวัฒนาการมาจากสหกรณ์หาทุนเดิมรวมกับสหกรณ์ประเภทต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกษตรในท้องถิ่นเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เช่น สหกรณ์ขายข้าว สหกรณ์บำรุงที่ดินและอื่นๆ มาเป็นสหกรณ์การเกษตร มีวัตถุประสงค์หลายอย่างครอบคลุมครบวงจรการประกอบอาชีพและการดำรงชีพของสมาชิก โดยดำเนินธุรกิจในลักษณะของการบริการ ดังนี้
1. ธุรกิจสินเชื่อ จัดหาเงินทุนมาให้สมาชิกกู้ ด้วยการระดมทุนจากสมาชิกทั้งในรูปของการฝากเงิน และการถือหุ้นเพิ่ม หาแหล่งเงินกู้ภายนอกเพิ่มเติม เพื่อนำมาดำเนินการให้เป็นไปตามความต้องการของสมาชิก
2. ธุรกิจการซื้อ จัดหาปัจจัยการผลิตได้แก่ ปุ๋ย พันธุ์พืช ยาปราบศัตรูพืช เครื่องมือการเกษตร เพื่อเพิ่มผลิตผลของสมาชิก รวมทั้งเครื่องอุปโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิตมาบริการแก่สมาชิกด้วย
3. ธุรกิจการขาย จัดการรวบรวมผลิตผลของสมาชิกมาจัดการจำหน่าย หรือแปรรูปออกจำหน่าย โดยมีความมุ่งหมายที่จะให้สมาชิกขายผลิตผลได้ในราคาดี การที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถจำหน่ายผลิตผลได้ในราคาสูง การดำเนินการในขั้นตอนของการผลิตจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จ จะต้องอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตเท่านั้น จึงจะสามารถกำหนดราคาให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ผลิตได้
สหกรณ์การเกษตรเป็นจำนวนมาก มีโรงสีแปรรูปข้าวเปลือกของตนเอง มีโรงงานผสมอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมสด และผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งมีฉางไซโล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ในการรวบรวมผลิตผลของสมาชิก
นอกจากธุรกิจที่สำคัญ 3 ประการดังกล่าวแล้ว สหกรณ์การเกษตรยังจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างฐานะของสมาชิกและครอบครัวรวมทั้งชุมชนด้วย ได้แก่ กิจกรรมสวัสดิการสงเคราะห์ ทั้งในเรื่องของภัยธรรมชาติ ฌาปนกิจกิจกรรมกลุ่มสตรีสหกรณ์ และเยาวชนสหกรณ์
ใน พ.ศ. 2529 มีสหกรณ์การเกษตรตั้งอยู่ในท้องที่ทุกอำเภอทั่วประเทศ จำนวน ๑,๐๘๙ สหกรณ์ มีสมาชิกทั้งสิ้น 851,224ครอบครัว
สหกรณ์นิคม
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้ที่ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีน้อยไม่พอประกอบอาชีพ โดยรัฐบาลจะจัดสรรที่ดินที่เสื่อมสภาพจากป่าสงวนแล้ว ให้ราษฎรเข้าถือครองประกอบอาชีพ ในสมัยแรกที่มีการจัดตั้งสหกรณ์นิคม สมาชิกสหกรณ์จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้รับการจัดสรรนั้นแต่ปรากฏว่ามีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่รักษาที่ดินนั้นไว้ นำไปขายต่อให้ผู้อื่น ทำให้มีการบุกรุกป่าสงวนเพิ่มขึ้นอีก ประกอบกับเป็นพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเกี่ยวกับการจัดสหกรณ์ในที่ดินพระราชทานตามโครงการในพระราชดำริ ไม่มีการให้กรรมสิทธิ์แต่สมาชิกทุกคนจะได้รับสิทธิครอบครองและสามารถตกทอดเป็นมรดกถึงลูกหลานได้ ตราบใดที่ยังประสงค์จะทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ของสหกรณ์หากไม่มีทายาทที่จะรับช่วงมรดก ก็ให้ที่ดินนั้นตกเป็นของสหกรณ์ เพื่อรับบุคคลที่ประสงค์จะ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเข้ามาทำกินได้ เราเรียกการจัดสหกรณ์ชนิดนี้ว่า สหกรณ์การเช่าที่ดิน
สมาชิกของสหกรณ์นิคมอีกชนิดหนึ่งที่สามารถได้กรรมสิทธิ์ที่ดินก็คือ สหกรณ์การเช่าซื้อที่ดิน ซึ่งจัดขึ้นในที่ดินผืนใหญ่ที่มีผู้เช่าที่ดินทำกินอยู่แล้ว และเจ้าของที่ดินประสงค์จะขายที่ดินนั้นให้แก่ผู้เช่า ซึ่งถ้าผู้เช่าทั้งหมดตกลงและประสงค์ที่จะได้ที่ดินเหล่านั้นเป็นของตนเอง แต่ติดขัดในเรื่องเงิน ทางราชการโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็จะขออนุมัติรัฐบาลจัดหาเงินกู้เพื่อซื้อที่ดินนั้นไว้ และขายให้แก่ผู้เช่าเหล่านั้นโดยวิธีการเช่าซื้อ ทั้งนี้จะต้องเป็นไปตามหลักการและวิธีการสหกรณ์เมื่อผ่อนชำระค่าเช่าซื้อเสร็จสิ้น ก็จะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของตนเองต่อไป
ใน พ.ศ. 2529 มีสหกรณ์นิคม จำนวน 93 สหกรณ์ มีสมาชิก 82,412 คน ส่วนใหญ่จะได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน จำนวนครอบครัวละ 25 ไร่
สหกรณ์ประมง
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้มีอาชีพประมงโดยเฉพาะ ทั้งอาชีพประมงน้ำจืด และประมงทะเล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทางด้านวิชาการ และดำเนินธุรกิจเพื่อส่งเสริมอาชีพประมงทั้งการจำหน่ายสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุปกรณ์ประมง
ใน พ.ศ. 2529 มีสหกรณ์ประมงทั้งประมงน้ำจืดและประมงทะเลในท้องที่จังหวัดชายทะเลและแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวน 19 สหกรณ์ มีสมาชิก 4,127 ครอบครัว
สหกรณ์ออมทรัพย์
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำโดยทั่วไปที่ต้องการพึ่งตนเองด้วยการออมทรัพย์เป็นประจำ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยการให้กู้ยืมเมื่อเกิดความจำเป็น สหกรณ์ออมทรัพย์ตั้งขึ้นทั่วไปในสถานที่ราชการ สำหรับข้าราชการพลเรือน ตำรวจทหาร และในรัฐวิสาหกิจ โรงงาน บริษัท สถานศึกษา หรือในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในโรงงาน และบริษัทต่างๆ นอกจากจะช่วยให้พนักงานมีการออมทรัพย์เพื่อตนเองแล้ว ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นในระหว่างพนักงานและเจ้าของกิจการ ทำให้ข้อขัดแย้งต่างๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ใน พ.ศ. 2529 มีสหกรณ์ออมทรัพย์จำนวน 634 สหกรณ์ มีสมาชิก 994,790 คน
สหกรณ์บริการ
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพ ต้องการดำรงชีพตามแนวทางสหกรณ์ และมีประเภทของ อาชีพนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว สหกรณ์บริการจึงมีหลายรูปแบบ เช่น สหกรณ์ไฟฟ้าดำเนินการให้ได้มาซึ่งกระแสไฟฟ้า และจัดให้มีการบำรุงรักษาร่วมกัน สหกรณ์เคหสถาน ดำเนินการให้ได้มาซึ่งบ้านที่อยู่อาศัย หรือที่ดิน และสิ่งสาธารณูปโภคอื่นๆ สหกรณ์ผู้เดินรถรับจ้างสหกรณ์แท็กซี่ สหกรณ์ผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักเป็นต้น
ใน พ.ศ. 2529 มีสหกรณ์บริการ จำนวน 256 สหกรณ์ มีสมาชิก 74,673 คน
สหกรณ์ทั้ง 6 ประเภท จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 และดำเนินการตามหลักการสหกรณ์สากล 1 ประการ โดยมีสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือกันระหว่างสหกรณ์ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ มีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐในการส่งเสริมและดูแลการดำเนินงานของสหกรณ์ มีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐในการตรวจตรากิจการสหกรณ์ ด้วยการตรวจบัญชีทุกสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกได้ทราบถึงฐานะของสหกรณ์ของตน มีสำนักงานนายทะเบียนสหกรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐในการรับจดทะเบียนสหกรณ์ และสั่งเลิกสหกรณ์
5. จงอธิบายเรื่องราวต่อไปนี้
5.1 จงอธิบายแนวความคิดของสำนักฟิสิโอแครทหรือคลาสสิคอย่างใดอย่างหนึ่งมาพอสังเขป (20 คะแนน)
ตอบ แนวคิดทางเศรษฐกิจยุคก่อนคลาสสิก เป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับทฤษฏีสมบูรณาญาสิทธิ์ คือ ให้ความชอบธรรมแก่อำนาจการอ้างว่า กษัตริย์มาจากพระเจ้า และอำนาจเด็ดขาดนี้จะก่อให้เกิดความมั่นคงและสันติภาพ นอกจากนี้ในยุคก่อนคลาสสิกมีทั้งลัทธิพาณิชย์นิยมและลัทธิธรรมชาตินิยม (Physiocrats) โดยลัทธิพาณิชย์นิยมสนใจการค้าเพราะทำให้เกิดความมั่งคั่ง ส่วนลัทธิธรรมชาตินิยมสนใจที่ดิน และผู้ที่ทำให้ที่ดินเกิดประโยชน์คือเกษตรกร ดังนั้นในยุคก่อนคลาสสิกจะขอกล่าวถึงแนวคิดทางเศรษฐกิจที่มีผู้เสนอผลงานไว้ ได้แก่
· อริสโตเติล (Aristotle) 384 ก่อนคริสต์ศักราช
· เซอร์วิลเลียม เพตตี (Sir William Petty) ค.ศ. 1623-1687
· ริชาร์ด แคนทิลลอน (Richard Cantillon) ค.ศ. 1685-1734
· ฟรองซัว เกส์เน (Francois Quesney) ค.ศ. 1694-1774
แนวคิดทางเศรษฐกิจยุคก่อนคลาสสิก เป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับทฤษฎีธรรมชาติและความเสรี ในยุคนี้มีนักคิดหลายท่านได้เสนอผลงานที่สำคัญได้แก่อริสโตเติล เซอร์วิลเลียม เพตตี ริชาร์ด แคนทิลลอน และฟรองซัว เกสเน
อริสโตเติลกล่าวถึงความมั่งคั่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ความมั่งคั่งที่แท้จริงกับความมั่งคั่งที่ต้องแสวงหา ความมั่งคั่งที่ต้องแสวงหาเป็นการขูดรีดเอากำไร ส่วนความมั่งคั่งที่แท้จริงเป็นความมั่งคั่งที่อยู่ตามธรรมชาติ นอกจากนี้อริสโตเติลยังกล่าวถึงมูลค่าที่เกิดจากการใช้และมูลค่าการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่เกิดจากการใช้หมายถึงสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการโดยตรงส่วน มูลค่าการแลกเปลี่ยนหมายถึงสินค้าที่นำไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งอื่น
เซอร์ วิลเลียม เพตตีไม่ได้เป็นนักพาณิชย์นิยมเพราะในช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงจากทุนนิยมทางการค้าไปสู่ทุนนิยมอุตสาหกรรม จึงทำให้เขาสามารถพัฒนาแนวคิดทฤษฎีมูลค่า ซึ่งนับได้ว่ามีส่วนพัฒนาแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์จุลภาค และมหภาคเป็นอย่างมาก
ริชาร์ด แคนทิลลอนได้กล่าวในเรื่องการผลิตและปัจจัยในการผลิตมี 2 ชนิด คือ แรงงานและที่ดิน ส่วนทฤษฎีราคาและมูลค่าแคนทิลลอนกล่าว่า ราคาที่ปรากฏในตลาดคือราคาที่แท้จริง ในระยะสั้นราคาตลาดอาจเท่ากับหรือแตกต่างจากมูลค่าได้ แต่ในระยะยาวราคาตลาดจะปรับให้เท่ากับมูลค่าเสมอ ในเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับการเงิน แคนทิลลอนได้นำเอาโลหะมากำหนดมูลค่าของเงิน ส่วนราคาของเงินในตลาดอาจแตกต่างจากมูลค่าขึ้นอยู่กับว่าเงินในตลาดมีมากหรือน้อย
ฟรองซัว เกสเนเป็นผู้ให้ชื่อลัทธิธรรมชาตินิยม เขาได้เปรียบเทียบระบบเศรษฐกิจเหมือนร่างกายมนุษย์ มีการไหลเวียนของโลหิต ระบบเศรษฐกิจจะมีการหมุนเวียนสินค้าเกษตรกรรมจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค คือ เจ้าของทรัพย์สินและประชาชนทั่วไป
5.2 จงอธิบายมาพอสังเขปกับแนวความคิด ดังต่อไปนี้ (30 คะแนน)
(ก) สหกรณ์เป็นเครื่องมือแห่งการให้การศึกษา
ตอบ การศึกษาอบรมทางสหกรณ์จึงเป็นเครื่องมือที่มีผลต่อการพัฒนางานสหกรณ์ของขบวนการ. สหกรณ์เป็นอย่างยิ่ง ... เกี่ยวข้องกับการให้การศึกษาและให้ข่าวสารแก่สมาชิกการศึกษา ฝึกอบรมและสารสนเทศ
(1) หลักการข้อนี้เป็นจุดอ่อนของสหกรณ์ในประเทศไทยทุกระดับ ทั้งสหกรณ์ขั้นปฐมและสหกรณ์ขั้นสูง เพราะขาดแผนแม่บทในการพัฒนาการศึกษาทางสหกรณ์ให้เป็นบทบาท และความรับผิดชอบของขบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่ได้รับเริ่มให้จัดตั้งกอทุนสะสม จัดสหภาพสหกรณ์จากกำไรของสหกรณ์มาตั้งแต่ พ.ศ.2492 และแม้จะมีการจัดตั้งสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยและมีชุมนุมสหกรณ์ระดับชาติบ้างแล้ว ส่วนราชการที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ก็ยังคงดำเนินการให้การศึกษา และฝึกอบรมทางสหกรณ์แทบจะเรียกได้ว่าซ้ำซ้อนกับขบวนการสหกรณ์ โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนให้ขบวนการสหกรณ์สามารถรับผิดชอบการให้การศึกษา และฝึกอบรมทางสหกรณ์ได้ด้วยตนเอง ในที่สุดโดยมีหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ให้การสนับสนุนอย่างเพียงพอตามความจำเป็น และเน้นการฝึกอบรวมข้าราชการให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
(2) การศึกษาฝึกอบรมและสารสนเทศมีความมุ่งหมายและเน้นกลุ่มเป้าหมายดังนี้
- การศึกษามุ่งให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่จะสมาชิกในอนาคต มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับสหกรณ์ รวมทั้งมีความสำนึก และตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก หรือให้เป็นผู้มีจิตวิญญาณสหกรณ์
- การฝึกอบรมมุ่งให้กรรมการ ผู้จัดการและพนักงานสหกรณ์ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ รวมทั้งความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ของตน
- ส่วนสารสนเทศนั้นมุ่งให้บุคคลทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเยาวชนและผู้นำด้านความคิดเป็น เช่น ผู้นำชุมนุม นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน ผู้นำองค์กร พัฒนาชุมชน ฯลฯ โดยเน้นการติดต่อสื่อสาร 2ทาง
(3) หลักสูตรและเนื้อหาของการศึกษาอบรมควรครอบคลุ่มทั้งด้านเศรษฐกิจสังคม
การเมืองและวัฒนธรรม
(ข) สหกรณ์เป็นศูนย์กลางของความกลมกลืนในสังคม
ตอบ องค์กรปกครองตนเอง ที่รวมกลุ่มกันขึ้นเพื่อสนองความต้องการที่จำเป็น โดยยึดหลักพึ่งพาอาศัยกันไม่แสวงหากำไร มุ่งช่วยเหลือกันเกื้อกูลกันในหมู่สมาชิก
การเป็นสมาชิกโดยสมัครใจและเปิดกว้าง
(1) พึงตระหนักว่าการเข้าและออกจากการเป็นสมาชิก จะต้องเป็นไปโดยความสมัครใจของบุคคล (คำว่า "บุคคล" หมายถึงทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ไม่ใช่ถูกชักจูง โน้มน้าว ล่อลวง บังคับ ข่มขู่จากผู้อื่น
(2) อย่างไรก็ดีการกำหนดคุณสมบัติสมาชิกของสหกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้บุคคลเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วสามารถร่วมกันดำเนินกิจกรรมในสหกรณ์ได้และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เพื่อสมาชิก และสหกรณ์ไม่ถือว่าขัดกับหลักการสหกรณ์ข้อนี้??
(3) สมาชิกสมทบนั้นควรมีแค่เฉพาะกรณีของสหกรณ์บางประเภทที่มีลักษณะพิเศษและจำเป็นเท่านั้ ไม่ควรให้มีในสหกรณ์ทั่วไปหรือทุกประเภทเพราะตามปกติสมาชิกสมทบมาจากบุคลซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกธรรมดา หากสหกรณ์ใดรับสมาชิกสมทบจำนวนมาก ก็อาจกระทบต่อการส่งเสริมผลประโยชน์ของสมาชิกธรรมดาได้แม้ว่ากฏหมายจะได้ห้ามมิให้สมาชิกสมทบมีสิทธิบางประการก็ตาม
(ค) สหกรณ์เป็นองค์การที่จัดสรรรายได้สุทธิเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและความเป็นธรรมในสังคม
ตอบ การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสมาชิก
(1) หลักการสหกรณ์ข้อนี้ มุ่งเน้นให้สมาชิกทุกคนพึงตระหนักว่าบทบาทที่สำคัญของตนคือ การที่ต้องเป็นทั้งเจ้าของและลูกค้าในคนเดียวกัน (Co - owner and Customers) จึงต้อทำหน้าที่เป็นผู้สมทบทุน ผู้ควบคุม และผู้อุดหนุน หรือผู้ใช้บริการของสหกรณ์ มิใช่มาเป็นสมาชิกเพียงเพื่อมุ่งหวังได้รับประโยชน์จากสหกรณ์เท่านั้น
(2) ในการจัดสรรกำไรสุทธิเพื่อความเป็นธรรมแก่สมาชิกส่วนหนึ่งต้องกันไว้เป็นทุนสำรอง ซึ่งจะนำไปแบ่งกันมิได้แต่เป็นทุนเพื่อพัฒนาสหกรณ์ของพวกเขาเองถือว่าเป็นทุนทางสังคม นอกนั้นอาจแบ่งเป็นเงินปันผลในอัตราจำกัดและเป็นเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนแห่งธุรกิจ
6. สหกรณ์ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในประเทศไทยเป็นเวลา 70 ปีแล้ว แต่สหกรณ์ก็ยังไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ปัญหาต่าง ๆ นับว่ามีมากมาย ท่านคิดว่าปัญหาที่ทำให้สหกรณ์ไม่พัฒนาเท่าที่ควรนั้น เนื่องมาจากสาเหตุอะไรบ้าง และท่านมีแนวความคิดที่จะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร?
ตอบ ปัจจัยที่ทำให้สหกรณ์ไทยเติบโตช้า
ปัญหาของขบวนการสหกรณ์ไทยที่เติบโตช้ามีหลายสาเหตุ สาเหตุแรกคือ การอยู่ภายใต้ระบบราชการ และกฎหมายที่เข้มงวด สหกรณ์ทุกประเภทอยู่ภายใต้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ภายใต้กระทรวงเกษตรฯ และมีกฎหมายที่ค่อนข้างเข้มงวดตายตัว
สาเหตุที่ 2 คือระบบนายทุน โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ กีดกันสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่ให้ตั้งเป็นธนาคารได้เหมือนประเทศอื่น สหกรณ์จะรับฝากหรือให้กู้คนภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกก็ไม่ได้ ทั้งการให้สิทธิพิเศษด้านลดหย่อนภาษีก็จำกัด เช่น ลดให้เฉพาะภาษีดอกเบี้ยจากเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ ในขณะที่หลายประเทศจะยกเว้นภาษีให้สหกรณ์ทุกประเภท
ในประเทศไทยมีธนาคารชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)ที่ให้สินเชื่อแก่เกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร แต่การเป็นเจ้าของและการจัดองค์กรเป็นธนาคารของรัฐที่บริหารงานเพื่อหากำไรแบบธนาคารพาณิชย์เหมือนธนาคารกรุงไทย ไม่ใช่ธนาคารที่เป็นของชาวสหกรณ์ที่บริหารโดยสหกรณ์เพื่อสหกรณ์อย่างแท้จริงเหมือนธนาคารสหกรณ์ในประเทศอื่น หากต้องการปฎิรูประบบสหกรณ์ไทยให้ก้าวหน้า ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแปลงให้ ธกส. เป็นธนาคารที่สหกรณ์เกษตรเข้าไปถือหุ้นทั้งหมดหรือถือหุ้นใหญ่ และสหกรณ์การเกษตรเป็นผู้เลือกตั้งผู้แทนเข้าไปดูแลบริหารจริงๆ จะจ้างผู้บริหารมืออาชีพก็ได้ แต่บอร์ดผู้บริหารต้องเป็นชาวสหกรณ์ที่เป็นตัวแทนของสมาชิกที่เป็นผู้ถือหุ้นและผู้ใช้บริการ
สาเหตุที่ 3 คือการขาดการให้การศึกษาประชาชนให้เข้าใจอุดมการณ์สหกรณ์ และขาดการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการบริหาร และมีความซื่อสัตย์ มีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ระบบการศึกษาไทยสอนแบบท่องจำ เน้นแต่อุดมการณ์จารีตนิยมและทุนนิยมที่แข่งขันหากำไรสูงสุดของเอกชนแบบตัวใครตัวมัน สนใจแต่ปัญหาด้านเทคนิควิชาชีพ ประชาชนก็มองสหกรณ์เป็นแค่แหล่งเงินกู้แหล่งหนึ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากราชการ ไม่เข้าใจว่าสหกรณ์เป็นทางเลือกที่ 3 ที่ต่างจากทั้งทุนนิยมและสังคมนิยม สหกรณ์เป็นสมาคมเพื่อช่วยเหลือกันและกันของประชาชน ที่ประชาชนร่วมลงทุนทั้งเป็นเจ้าของ ผู้ผลิตและผู้บริโภค บริหารและแบ่งปันผลกำไรกันแบบประชาธิปไตย คือสมาชิกมีเสียง 1 เสียงเท่ากัน สหกรณ์ไม่ใช่ทั้งหน่วยราชการและไม่ใช่ธุรกิจเอกชนเจ้าของคนเดียว หรือบริษัทจำกัดซึ่งคนถือหุ้นใหญ่มีเสียงมากกว่าคนถือหุ้นรายย่อย
7. สุคนธามีความสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า เพราะเหตุใดสหกรณ์ทั่วโลกใช้หลักสหกรณ์ที่เป็นสากลเหมือนกัน แต่ประสบความสำเร็จได้ไม่เหมือนกัน เธอจึงถามสุภาพร แต่สุภาพรก็ตอบไม่ได้ ในฐานะที่ท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาด้านสหกรณ์มาเป็นอย่างดีแล้ว โปรดช่วยสุคนธาและสุภาพรตอบปัญหานี้ด้วยว่าเป็นเพราะเหตุใด?
ตอบ ที่จริงสหกรณ์ในไทยเองโดยเปรียบเทียบก็ยังมีปัญหาทุจริตน้อยกว่าระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ สหกรณ์มีศักยภาพในการพัฒนาแนวธุรกิจเอกชนที่เน้นการแข่งขันในตลาดอย่าง มีประสิทธิภาพได้มากกว่าระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ ในประเทศอื่นที่สหกรณ์เติบโตได้ เพราะสหกรณ์เป็นอิสระจากระบบราชการ สมาชิกเอาการเอางานและบริหารสู้ธุรกิจเอกชนได้ ในประเทศไทยก็มีกลุ่มออมทรัพย์เครดิตยูเนียน สหกรณ์ทรัพย์ สหกรณ์การเกษตรบางแห่งที่ประสบความสำเร็จ สามารถบ่มเพาะผู้บริหารที่เก่งและมีอุดมการณ์ แต่สหกรณ์ของไทยเมื่อเติบโต ได้ระดับหนึ่งก็มักขยายไม่ได้ ติดตัวกฎหมาย ระบบบริหาร ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาด เมื่อสหกรณ์ขยายตัวไม่ได้ ก็ขึ้นเงินเดือนผู้บริหาร หรือจ้างผู้บริหารมืออาชีพไม่ได้ หรือไม่มี เงินมากพอจะฝึกอบรม พัฒนาบุคลากรของตนให้ทันสมัยแข่งขันกับธุรกิจเอกชนได้
8. "ความสำเร็จในการดำเนินของสหกรณ์นั้น ความร่วมมือจากสมาชิกก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่สำคัญ" อย่างไรก็ตาม อาภัสรามักจะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับแนวความคิดนี้เสมอ โดยเธอมีความเห็นว่า สหกรณ์นี้ช่างไม่เหมาะกับนิสัยใจคอของคนไทยเอาเสียเลย เนื่องจากคนไทยมีลักษณะนิสัยเป็นแบบตัวใครตัวมัน (individualism) ความร่วมมือจึงไม่ค่อยมีความสำเร็จของ สหกรณ์จึงเกิดขึ้นได้ยาก ท่านเห็นด้วยกับแนวความคิดของอาภัสราหรือไม่? จงให้เหตุผล
ตอบ ปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จของการจัดตั้งธุรกิจชุมชุมชนนั้น มีดังต่อไปนี้
1) ความเข้าใจของสมาชิก
สมาชิกจะต้องเข้าใจในความแตกต่าง ขอบเขต และข้อจำกัดของกลุ่มที่จัดตั้งขึ้น
2) ความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจชุมชน
ซึ่งบางชุมชนอาจทำการผลิตแค่พออยู่พอกิน รูปแบบของกลุ่มอาจเป็นเพียงกลุ่มเพื่อ
การผลิต เช่น กลุ่มทำนา หรือกลุ่มเลี้ยงสัตว์ บางชุมชนอาจมีเป้าหมายคือกำไร เพื่อนำกำไร มายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกให้ดีขึ้น
3) เงินทุน
เพราะเงินทุนเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจชุมชน ดังนั้นการดำเนินธุรกิจชุมชนจึงควรเริ่มจากกิจกรรมเล็กไปใหญ่ ค่อยๆสะสมเงินทุนจากชุมชนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดกับธุรกิจ การรวมทุนทีละเล็กละน้อยอาจช้าเกินไป ชุมชนอาจสามารถระดมทุนในรูปของสหกรณ์หรือบริษัทก็ได้
4) ทรัพยากรบุคคล
ซึ่งบุคคลประเหล่านี้จะต้องมีความรู้ความสามารถ ทั้งด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิทยาการใหม่ๆ ทั้งนี้จะต้องเป็นคนที่รักงานของชุมชน ชอบงานท้าทาย มีความเสียสละไม่หวังผลตอบแทนมากเกินไป
5) การมีส่วนร่วมของชุมชน
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดตั้งธุรกิจชุมชน ถ้าสมาชิกไม่ร่วมมือธุรกิจชุมชนก็เกิดขึ้นไม่ได้ โดยที่สมาชิกควรมี 4 ร่วม คือ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำและร่วมรับผิดชอบ
ธุรกิจชุมชนเป็นแนวทางหนึ่งในการยกระดับรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของชาวบ้านหรือเกษตรกรในชนบทที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เป็นกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดของประเทศ หากกลุ่มชาวบ้านหรือกลุ่มเกษตรกรเหล่านี้มีรายได้สูงขึ้นจะส่งผลกระทบด้านบวกต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยในการประกอบธุรกิจชุมชนควรมุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนแบบพึ่งตนเอง ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัตถุดิบในชุมชน โดยคนในชุมชน เพื่อคนในชุมชน
9. ในแต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว จงวงกลมล้อมรอบข้อที่เห็นว่ามีความถูกต้องมากที่สุดสำหรับเหตุการณ์หรือแนวความคิดดังต่อไปนี้
(1) กำไรคือสิ่งที่ชั่วร้าย
ก. วิลเลียม คิง ข. หลุยส์ บลังค์
ค. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ง. โรเบอร์ต โอเวน
ตอบ ง. โรเบอร์ต โอเวน
(2) มีการจัดทำหนังสือพิมพ์ "นักสหกรณ์"
ก. วิลเลียม คิง ข.โรเบอร์ต โอเวน
ค. หลุยส์ บลังค์ ง. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
ตอบ ก. วิลเลียม คิง
(3) จัดตั้งร้านสหกรณ์ที่เมืองไบรตัน
ก. โรเบอร์ต โอเวน ข. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
ค. หลุยส์ บลังค์ ง. วิลเลียม คิง
ตอบ ง. วิลเลียม คิง
(4) สิ่งแวดล้อมทางสังคมใหม่จะต้องผลิตให้พอเพียงแก่การบริโภคเท่านั้น
ก. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ข. โรเบอร์ต โอเวน
ค. ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง ง. ทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ทั้ง ก และ ข
(5) ทรัพย์สินของสิ่งแวดล้อมทางสังคมใหม่จะต้องเป็นของส่วนรวม
ก. วิลเลียม คิง ข. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
ค. โรเบอร์ต โอเวน ง. ไม่มีคำตอบถูกต้อง
ตอบ ก. วิลเลียม คิง
(6) ปฏิเสธการช่วยเหลือจากรัฐ
ก. หลุยส์ บลังค์ ข. โรเบอร์ต โอเวน
ค. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ง. ทั้ง ข และ ค.
ตอบ ง. ทั้ง ข และ ค.
(7) กำไรแบ่งออกเป็น 12 ส่วน (ทุน 4 ส่วน แรงงาน 5 ส่วน และผู้ดำเนินการ 3 ส่วน)
ก. โรเบอร์ต โอเวน ข. วิลเลียม คิง
ค. ชุลท์เซ เดลิตซ์ ง. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
ตอบ
(8) รัฐจะต้องให้การช่วยเหลือในระยะแรก
ก. โรเบอร์ต โอเวน ข. หลุยส์ บลังค์
ค. ชาร์ลส์ ฟูริเอส์ ง. ชุลท์เซ เดลิตซ์
ตอบ ข. หลุยส์ บลังค์
(9) ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ก. โรเบอร์ต โอเวน ข. หลุยส์ บลังค์
ค. ชาร์ลส์ ฟูริเอส์ ง. วิลเลียม คิง
ตอบ ข. หลุยส์ บลังค์
(10) "โรงงานสังคม"
ก. หลุยส์ บลังค์ ข. โรเบอร์ต โอเวน
ค. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ง. ชุลท์เซ เดลิตซ์
ตอบ ก. หลุยส์ บลังค์
(11) "ฟาลังซ์"
ก. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ข. วิลเลียม คิง
ค. หลุยส์ บลังค์ ง. ชุลท์เซ เดลิตซ์
ตอบ ก. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
(12) แบ่งกำไรออกเป็น 3 ส่วน (แบ่งให้กับคนงาน เป็นสวัสดิการต่าง ๆ และขยายกิจการ
ก. หลุยส์ บลังค์ ข. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์
ค. วิลเลียม คิง ง. ชุลท์เซ เดลิตซ์
ตอบ
(13) "สหกรณ์หาทุนสำหรับผู้ประกอบการในเมือง"
ก. วิลเลียม คิง ข. หลุยส์ บลังค์
ค. ชุลท์เซ เดลิตซ์ ง. ไรฟ์ไฟเซน
ตอบ ก. วิลเลียม คิง
(14) เป็นสหกรณ์ขนาดเล็ก ครอบคลุมพื้นที่ 1-2 หมู่บ้าน
ก. ชุลท์เซ เดลิตซ์ ข. ไรฟ์ไฟเซน
ค. โรเบอร์ต โอเวน ง. หลุยส์ บลังค์
ตอบ ข. ไรฟ์ไฟเซน
(15) "บิดาของการสหกรณ์"
ก. ชาร์ลส์ ฟูริเอร์ ข. วิลเลียม คิง
ค. หลุยส์ บลังค์ ง. โรเบอร์ต โอเวน
ตอบ ง. โรเบอร์ต โอเวน
10. ในแต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว จงวงกลมล้อมรอบข้อที่เห็นว่ามีความถูกต้องมากที่สุดสำหรับเหตุการณ์ ช่วงเวลา หรือแนวความคิดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นในยุคใด"
(1) มีการรวมตัวกันในรูปบริษัทเพื่อสำรวจและจัดตั้งอาณานิคม
ก. ยุคกำเนิดศาสนาอิสลาม ข. ยุคกลาง
ค. ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ง. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
ตอบ
(2) มีการรวมตัวกันทำอุตสาหกรรมการผลิตเนย
ก. ยุคกลาง ข. ยุคโรมัน
ค. ยุคจีนโบราณ ง. ยุคศาสนาคริสต์ตอนต้น
ตอบ ก. ยุคกลาง
(3) มีสมาคมกู้ยืมเงินเกิดขึ้น
ก. ยุคบาบิโลเนียน ข. ยุคโรมัน
ค. ยุคกรีกตอนต้น ง. ยุคจีนโบราณ
ตอบ ก. ยุคบาบิโลเนียน
(4) มีการรวมตัวกันเช่าที่นา
ก. ยุคกรีกตอนต้น ข. ยุคบาบิโลเนียน
ค. ยุคจีนโบราณ ง. ยุคอียิปต์โบราณ
ตอบ ข. ยุคบาบิโลเนียน
(5) มีการทำการเกษตรบนพื้นที่ขนาดใหญ่ (latifundia)
ก. ยุคอนารยธรรม ข. ยุคโรมัน
ค. ยุคศาสนาคริสต์ตอนต้น ง. ยุคกลาง
ตอบ
(6) มีช่างฝีมือ 8 หมู่เกิดขึ้น
ก. ยุคโรมัน ข. ยุคกรีกตอนต้น
ค. ยุคกลาง ง. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
ตอบ ก. ยุคโรมัน
(7) เกิดเป็นระบบขุนนาง (manorial system)
ก. ยุคศาสนาคริสตอนต้น ข. ยุคกลาง
ค. ยุคโรมัน ง. ยุคอนารยธรรม
ตอบ
(8) มีการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือเกี่ยวกับพิธีศพ
ก. ยุคบาบิโลเนียน ข. ยุคศาสนาคริสต์ตอนต้น
ค. ยุคกรีกตอนต้น ง. ยุคโรมัน
ตอบ ข. ยุคศาสนาคริสต์ตอนต้น
(9) มีการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือคนอ่อนแอในสังคม
ก. ยุคโรมัน ข. ยุคกลาง
ค. ยุคกำเนิดศาสนาอิสลาม ง. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
ตอบ ค. ยุคกำเนิดศาสนาอิสลาม
(10) มีการรวมตัวของช่างฝีมือเป็นครั้งแรกของโลก
ก. ยุคบาบิโลเนียน ข. ยุคกรีกตอนต้น
ค. ยุคอียิปต์โบราณ ง. ยุคจีนโบราณ
ตอบ ค. ยุคอียิปต์โบราณ
11. จงทำเครื่องหมาย ü หน้าข้อความที่ถูกต้องทั้งหมดและทำเครื่องหมาย û หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด
1. ü ความสำเร็จในฐานะธุรกิจของสหกรณ์ขึ้นอยู่กับสมาชิก คณะกรรมการดำเนินงาน ฝ่ายจัดการ
2. û สมาชิกมีบทบาทในการให้ความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเงินของสหกรณ์
3. ü เมื่อสมาชิกไม่พอใจในสหกรณ์ควรนำเสนอความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ด้วย
4. ü คณะกรรมการดำเนินงานมีหน้าที่ในการกู้ยืมเงินจากแหล่งภายนอกเพื่อใช้ในกิจการ สหกรณ์
5. ü ผู้จัดการสหกรณ์ต้องทำการศึกษา วางแผน และวิจัยถึงปัญหาของสหกรณ์ที่สำคัญอยู่เสมอ
6. û การกำหนดนโยบายของสหกรณ์เป็นหน้าที่ของสมาชิกสหกรณ์โดยตรง
7. ü การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยย่อยในสหกรณ์จะทำให้สหกรณ์มีความสำเร็จทางธุรกิจได้
8. ü การได้รับข้อมูลข่าวสารทางวิชาการเป็นบริการพิเศษที่สหกรณ์ควรจัดให้แก่สมาชิก
9. û สหกรณ์มีเจ้าของและผู้ควบคุมกิจการเป็นคนเดียวกัน
10. ü เราวัดผลการดำเนินงานในการติดต่อสื่อสารทางสหกรณ์ได้จากการลาออกจากการเป็นสมาชิกภาพ
11. ü การศึกษาสหกรณ์มีความสำคัญในการทำให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
12. ü เราให้การส่งเสริมสหกรณ์แก่สมาชิกเพราะจะช่วยให้สมาชิกเกิดความเข้าใจและมีส่วนในการดำเนินงานสหกรณ์
13. û การให้การส่งเสริมสหกรณ์แก่สาธารณชนไม่จำเป็นเพราะสิ้นเปลืองงบประมาณและไม่ได้ผล
14. ü การตัดสินใจว่าจะยอมรับสิ่งที่ได้รู้มานำมาปฏิบัติหรือไม่ เกิดขึ้นหลังจากการทดลอง
15. ü เจ้าหน้าที่ส่งเสริมของรัฐจะมีความสำคัญแก่กลุ่มเป้าหมายมากที่สุดในขั้นการปฏิบัติ
16. ü ในขั้นการทดลองเพื่อนและเพื่อนบ้านจะมีความสำคัญต่อกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
17. ü กลุ่มเป้าหมายในระดับที่ 7 คือ เกษตรกรและเยาวชน
18. ü การส่งเสริมสหกรณ์ให้แก่พนักงานสหกรณ์เพื่อต้องการให้เกิดการเสริมสร้างสมรรถภาพในการปฏิบัติงาน
19. ü ความสำเร็จในการส่งเสริมสหกรณ์ต้องครอบคลุมทั้งด้านกฏหมายและการบริหาร
20. û ในการส่งเสริมการเกษตรผู้เข้าร่วมในการรับการส่งเสริมไม่ต้องให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน
12. จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. ความสำเร็จในฐานะที่เป็นสหกรณ์จะเกิดขึ้นได้จะต้องมาจากความร่วมมือกันจากฝ่ายใด
ก. สหกรณ์กับบุคคลภายนอก
ข. คณะกรรมการดำเนินงาน สมาชิกสหกรณ์ ฝ่ายจัดการสหกรณ์
ค. ผู้จัดการสหกรณ์ พนักงาน สมาชิก
ง. พนักงาน สมาชิก บุคคลภายนอก กรรมการจัดการสหกรณ์
ตอบ ข. คณะกรรมการดำเนินงาน สมาชิกสหกรณ์ ฝ่ายจัดการสหกรณ์
จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 2-5
1. ควบคุม ดูแล เจ้าหน้าที่ คณะกรรมการดำเนินงาน
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
3. เลือกตั้งและถอดถอนกรรมการดำเนินงาน
4. เรียกประชุมตามวาระ
5. คัดเลือกผู้จัดการที่มีความสามารถ
6. พัฒนาธุรกิจ
7. กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินทดแทน
2. ข้อใดคือบทบาทของสมาชิกในการจัดการสหกรณ์
ก. ข้อ 2 และข้อ 4 ข. ข้อ 5, 3 และข้อ 2
ค. ข้อ 1 และข้อ 3 ง.ข้อ ก และข้อ ค. ถูก
ตอบ ค. ข้อ 1 และข้อ 3
3. ข้อใดคือความรับผิดชอบของคณะกรรมการดำเนินงานทางด้านธุรกิจ
ก. ข้อ 5 และข้อ 6 ข. ข้อ 6 และข้อ 2
ค. ข้อ 7, 6 และข้อ 5 ง. ข้อ 2 และข้อ 4
ตอบ ง. ข้อ 2 และข้อ 4
4. ข้อใดเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการดำเนินงานที่มีต่อสมาชิกสหกรณ์
ก. ข้อ 7 ข. ข้อ 5
ค. ข้อ 4 ง. ข้อ 2
ตอบ ก. ข้อ 7
5. ผู้จัดการสหกรณ์จะมีส่วนในการจัดการสหกรณ์อย่างไร
ก. ข้อ 1 และข้อ 3 ข. ข้อ 6 และข้อ 7
ค. ข้อ 3, 6 และข้อ 7 ง. ข้อ 1, 3 และ 5
ตอบ ข. ข้อ 6 และข้อ 7
6. การดำเนินธุรกิจหรือการพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพจะต้องให้ความสำคัญต่อข้อใด
ก. การพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ข. จำนวนสมาชิกหากมีจำนวนมากจะยิ่งพัฒนาธุรกิจได้ดี
ค. การพัฒนาสิ่งก่อสร้างและเครื่องอำนวยความสะดวก
ง. สภาพทางเศรษฐกิจ สังคมของสมาชิก
ตอบ ง. สภาพทางเศรษฐกิจ สังคมของสมาชิก
7. ขั้นตอนที่จะนำสหกรณ์ให้ประสบผลสำเร็จในทางธุรกิจมีหลายขั้นตอน การกำหนดหน้าที่ ความ รับผิดชอบของหน่วยงานย่อย อยู่ในขั้นตอนใด
ก. การจัดรูปองค์การ ข. การวางแผน
ค. การอำนวยการ ง. การควบคุม
ตอบ ก. การจัดรูปองค์การ
8. ข้อควรคำนึงถึงในการจัดการสหกรณ์ที่ดีคือข้อใด
ก. ต้องมีกำไรในแต่ละปีดำเนินการจำนวนมาก
ข. ต้องหาสมาชิกให้ได้เพิ่มขึ้นทุกปี
ค. ต้องมีเงินออมของสหกรณ์เพิ่มขึ้นทุกปี
ง. ต้องมีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ
ตอบ ง. ต้องมีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ
9. ความจำเป็นที่สหกรณ์ต้องมีการติดต่อสื่อสารคืออะไร
ก. สหกรณ์ตั้งอยู่ห่างไกลจากสมาชิก
ข. สหกรณ์มีข้อมูลข่าวสารที่ต้องการเผยแพร่มาก
ค. สหกรณ์มีจำนวนสมาชิกมาก
ง. สหกรณ์มีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านอยู่เสมอ
ตอบ ค. สหกรณ์มีจำนวนสมาชิกมาก
10. เราวัดผลของความสำเร็จในการติดต่อสื่อสารได้จากข้อใด
ก. จำนวนเงินในการดำเนินการ จำนวนสมาชิก
ข. ทัศนคติของผู้รับข่าวสาร การลาออกจากการเป็นสมาชิก
ค. ผลการดำเนินงานในรอบปี จำนวนคณะกรรมการดำเนินงาน
ง. ขนาดของสถานที่ก่อสร้างสหกรณ์ จำนวนหนังสือเรียน
ตอบ ก. จำนวนเงินในการดำเนินการ จำนวนสมาชิก
11. รูปแบบในการติดต่อสื่อสารของสหกรณ์มีอะไรบ้าง
ก. แบบทางเดียว แบบสองทาง
ข. แบบใช้สื่อ แบบไม่ใช้สื่อ
ค. แบบให้การศึกษา แบบส่งเสริม
ง. แบบเป็นกลุ่ม แบบไม่เป็นกลุ่ม
ตอบ ง. แบบเป็นกลุ่ม แบบไม่เป็นกลุ่ม
12. ในระยะการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในช่วงทดลองแหล่งข่าวสารจากที่ใดมีผลมากที่สุด
ก. โสตทัศนูปกรณ์ ข. เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร
ค. พนักงานขาย ง. เพื่อนหรือเพื่อนบ้าน
ตอบ ก. โสตทัศนูปกรณ์
13. โสตทัศนูปกรณ์มีความสำคัญมากที่สุดในการเปลี่ยนแปลงระยะใด
ก. สนใจ ข. ปฏิบัติจริง
ค. ทดลอง ง. ประเมินผล
ตอบ ข. ปฏิบัติจริง
14. หน่วยงานที่รับผิดชอบการส่งเสริมสหกรณ์ในประเทศไทยคือหน่วยงานใด
ก. สันนิบาตสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการเกษตร
ข. กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์
ค. สันนิบาตสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์
ง. กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์การเกษตร
ตอบ ง. กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์การเกษตร
15. สถานีวิทยุ โทรทัศน์ช่อง 11 ของกรมประชาสัมพันธ์มีรายการ "5 นาทีกับสหกรณ์การเกษตร"
ทุกวัน การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวถือเป็นวิธีการใดในการติดต่อสื่อสารของสหกรณ์
ก. แบบกลุ่ม ข. แบบมวลชน
ค. แบบบุคคลต่อบุคคล ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ข. แบบมวลชน
16. นายชอบชู ชี้ชวน ได้ไปเข้าร่วมประชุมกรรมการสหกรณ์ประจำเดือน เป็นการรับรู้ข่าวสารของ สหกรณ์โดยวิธีใด
ก. แบบมวลชน ข. แบบบุคคลต่อบุคคล
ค. แบบกลุ่ม ง. แบบไม่เป็นทางการ
ตอบ ค. แบบกลุ่ม
17. นางสาวบุญทัย ทองแท่ง ได้พูดคุยกับผู้จัดการสหกรณ์เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนสมัครเป็น
สมาชิกสหกรณ์วิธีการแบบใด เป็นวิธีการที่นางสาวบุญทัย ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
ก. แบบบุคคลต่อบุคคล ข. แบบเป็นทางการ
ค. แบบทางเดียว ง. แบบมวลชน
ตอบ ก. แบบบุคคลต่อบุคคล
18. ข้อใดเป็นข้อที่เหมือนกันสำหรับการติดต่อสื่อสารแบบกลุ่มและแบบมวลชน
ก. ราคาแพง
ข. ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก
ค. ใช้กลุ่มเป้าหมายมากในขณะเดียวกัน
ง. ใช้สื่อช่วยในการสื่อสารโดยต้องเป็นสื่อเฉพาะ
ตอบ ค. ใช้กลุ่มเป้าหมายมากในขณะเดียวกัน
19. กลุ่มเป้าหมายในระดับที่ 3 ในงานส่งเสริมสหกรณ์ในประเทศไทยคือใคร
ก. ผู้นำสหกรณ์ ข. เจ้าหน้าที่สหกรณ์
ค. ผู้จัดการสหกรณ์ ง. สมาชิกสหกรณ์
ตอบ ข. เจ้าหน้าที่สหกรณ์
20. ในการส่งเสริมสหกรณ์ของประเทศไทย การส่งเสริมในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเกษตรกรและเยาวชนเราจะทำการส่งเสริมในด้านใด
ก. ให้มีความสนใจและเข้าร่วมสหกรณ์
ข. ให้เกิดความเข้าใจในสหกรณ์
ค. ให้เป็นผู้นำสหกรณ์ที่ดี
ง. ให้สามารถดำเนินงานได้
ตอบ ก. ให้มีความสนใจและเข้าร่วมสหกรณ์
21. สหกรณ์มีการจัดการส่งเสริมเผยแพร่ในแบบอื่นนอกจากให้การศึกษาอบรม เช่นอะไรบ้าง
ก. จับรางวัล ข. จัดฉายภาพยนต์
ค. จัดรถโฆษณา ง. จัดทำเอกสารเผยแพร่
ตอบ ก. จับรางวัล
22. ปัญหาในการส่งเสริมสหกรณ์คือข้อใด
ก. สมาชิกมีจำนวนน้อย ข. เผยแพร่ได้ในสื่อที่จำกัด
ค. มีการต่อต้านจากธุรกิจอื่น ง. ขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล
ตอบ ก. สมาชิกมีจำนวนน้อย
จงใช้ตัวเลือกตัวต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 23-25
1. ความสำเร็จขี้นกับความร่วมมือของทุกคน
2. การต้านทาน คัดค้าน เกิดจากบุคคลบางคน
3. ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ในบุคคลเดียว
4. การบริหารและกฏหมายจะมีอิทธิพลต่อความสำเร็จ
5. ต้องอาศัยทัศนคติ ความรู้สึกนึกคิด
6. เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่
23. ข้อใดเป็นลักษณะในงานส่งเสริมสหกรณ์ทุกข้อ
ก. 2, 4, 6 ข. 1, 3, 5
ค. 5, 4, 1 ง. 4, 6, 3
ตอบ ค. 5, 4, 1
24. ข้อใดเป็นความแตกต่างระหว่างงานส่งเสริมสหกรณ์และงานส่งเสริมการเกษตร
ก. 3, 4 กับ 1, 6 ข. 2, 6 กับ 4, 3
ค. 1, 4 กับ 5, 3 ง. 6, 3 กับ 4, 5
ตอบ ค. 1, 4 กับ 5, 3
25. ตัวเลือกใดเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับการส่งเสริมการเกษตรที่ว่า "มีลักษณะเป็นรูปธรรมใช้
การแสดงสาธิต"
ก. ข้อ 6 ข. ข้อ 5
ค. ข้อ 3 ง. ข้อ 1
ตอบ ข. ข้อ 5
แนวข้อสอบความรู้เรื่องกฎหมายสหกรณ์
1. กฎหมายรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์มีกี่มาตรา
ก. 2 มาตรา
ข. 3 มาตรา
ค. 4 มาตรา
ง. 5 มาตรา
ตอบ ค. 4 มาตรา
2. พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ถือใช้ตั้งแต่เมื่อไร
ก. 23 มีนาคม 2542
ข. 24 มีนาคม 2542
ค. 23 เมษายน 2542
ง. 24 เมษายน 2542
ตอบ ง. 24 เมษายน 2542
3. พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 มีทั้งสิ้นกี่มาตรา
ก. 136 มาตรา
ข. 137 มาตรา
ค. 138 มาตรา
ง. 139 มาตรา
ตอบ ค. 138 มาตรา
4. ประธานกรรมการในคณะกรรการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติคือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ง. ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
5. ปัจจุบันนายทะเบียนสหกรณ์คือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์
ง. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ตอบ ง.อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
6. การปฏิรูประบบราชการมีผลกระทบกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ในเรื่องใด
ก. เปลี่ยนแปลงคำว่า “ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ”
ข. เปลี่ยนแปลงคำว่า “ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ”
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
7. การตรวจสอบกิจการและฐานะการเงินของสหกรณ์เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ใด
ก. นายทะเบียนสหกรณ์
ข. รองนายทะเบียนสหกรณ์
ค. ผู้ตรวจการสหกรณ์
ง. ผู้สอบบัญชี
ตอบ ค. ผู้ตรวจการสหกรณ์
8. กพส. เป็นชื่อย่อของอะไรในพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542
ก. คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
ข. กองทุนพัฒนาสหกรณ์
ค. กองทุนพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ
ง. คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสหกรณ์
ตอบ ข. กองทุนพัฒนาสหกรณ์
9. จำนวนของคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 เป็นอย่างไร
ก. มีจำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน
ข. มีจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน
ค. มีจำนวนไม่เกิน 15 คน
ง. มีจำนวนไม่เกิน 10 คน
ตอบ ข. มีจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน
10. การประชุมเพื่อจัดตั้งสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 มีการประชุมที่สำคัญรวม กี่ครั้ง
ก. 1 ครั้ง
ข. 2 ครั้ง
ค. 3 ครั้ง
ง. ไม่จำกัดครั้ง
ตอบ ข. 2 ครั้ง
11. ผู้ที่ทำหน้าที่ผู้วินิจฉัยตีความในข้อบังคับตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 คือผู้ใดบ้าง
ก. นายทะเบียนสหกรณ์
ข. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ค. สหกรณ์จังหวัด
ง. ถูกหมดทุกข้อ
ตอบ ก. นายทะเบียนสหกรณ์
12. ระเบียบของสหกรณ์ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์คือ
ก. ระเบียบว่าด้วยการรับฝากเงินประเภทออมทรัพย์หรือประเภทประจำจากสมาชิกหรือสหกรณ์อื่น
ข. ระเบียบว่าด้วยการให้สหกรณ์อื่นกู้ยืมเงิน
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
13. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 สหกรณ์มีคณะกรรมการดำเนินการทั้งสิ้นกี่คน
ก. 14 คน
ข. 15 คน
ค. เท่าใดก็ได้แต่ไม่เกิน 14 คน
ง. เท่าใดก็ได้แต่ไม่เกิน 15 คน
ตอบ ง. เท่าใดก็ได้แต่ไม่เกิน 15 คน
14. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ผู้ตรวจสอบกิจการหมายถึง
ก. ผู้ที่นายทะเบียนแต่งตั้ง
ข. ผู้ที่อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์แต่งตั้ง
ค. ผู้ที่ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก
ง. ผู้ที่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์แต่งตั้ง
ตอบ ค. ผู้ที่ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก
15. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 สหกรณ์ต้องส่งสำเนารายงานประจำปีกับงบดุลภายใน 30 วัน ให้กับใครบ้าง
ก. นายทะเบียนสหกรณ์
ข. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ค. อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ง. ถูกหมดทุกข้อ
ตอบ ก. นายทะเบียนสหกรณ์
16. การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กำหนดให้จัดสรรเป็นทุนสำรองไว้อย่างไร
ก. มี่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิ
ข. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ
ค. ไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ
ง. ไม่เกินร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิหรือไม่เกิน 10,000 บาท
ตอบ ข. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ
17. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 นายทะเบียนสหกรณ์สั่งเลิกสหกรณ์ในกรณีใดบ้าง
ก. สหกรณ์ไม่เริ่มดำเนินการภายใน 2 ปี นับแต่วันจดทะเบียน
ข. สหกรณ์หยุดดำเนินการติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันที่หยุดดำเนินกิจการ
ค. สหกรณ์ไม่ส่งสำเนางบดุลและรายงานประจำปีต่อนายทะเบียนสหกรณ์เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน
ง. สหกรณ์ล้มละลาย
ตอบ ข. สหกรณ์หยุดดำเนินการติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันที่หยุดดำเนินกิจการ
18. กรณีที่สหกรณ์ถูกสั่งเลิกโดยนายทะเบียนสหกรณ์ สหกรณ์มีสิทธิในการอุทธรณ์กับใครบ้าง
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข. คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
ค. นายทะเบียนสหกรณ์
ง. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ตอบ ข.คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
19. การตั้งชุมนุมสหกรณ์จะต้องมีสหกรณ์ร่วมกันกี่สหกรณ์ จึงจะจัดตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์ได้
ก. 3 สหกรณ์ขึ้นไป
ข. 4 สหกรณ์ขึ้นไป
ค. 5 สหกรณ์ขึ้นไป
ง. 6 สหกรณ์ขึ้นไป
ตอบ ค. 5 สหกรณ์ขึ้นไป
20. นายทะเบียนสหกรณ์จะต้องรักษาสมุดบัญชีและเอกสารของสหกรณ์ที่ได้ชำระบัญชีเสร็จแล้วอีกนานเท่าใด
ก. 2 ปี นับจากวันที่เลิกสหกรณ์
ข. 3 ปี นับจากวันที่เลิกสหกรณ์
ค. 2 ปีนับแต่วันที่ถอนชื่อออกจากทะเบียน
ง. 3 ปีนับแต่วันที่ถอนชื่อออกจากทะเบียน
ตอบ ค. 2 ปีนับแต่วันที่ถอนชื่อออกจากทะเบียน
21. พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อใด
ก. วันที่ 23 มีนาคม 2542
ข. วันที่ 23 เมษายน 2542
ค. วันที่ 24 มีนาคม 2542
ง. วันที่ 24 เมษายน 2542
ตอบ ข. วันที่ 23 เมษายน 2542
22. ผู้กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาการสหกรณ์เป็นผู้ใด
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ง. นายทะเบียน
ตอบ ข. คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
23. ข้าราชการต่อไปนี้นายทะเบียนสหกรณ์มีอำนาจแต่งตั้งให้เป็นรองนายทะเบียนสหกรณ์ได้
ก. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ข. อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ค. รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ง. รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ตอบ ค. รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
24. เมื่อผู้ตรวจการสหกรณ์ได้เข้าไปตรวจสอบในสำนักงานสหกรณ์เสร็จแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไป
ก. ถ้าพบข้อบกพร่องในสหกรณ์ให้มีหนังสือสั่งให้สหกรณ์แก้ไข
ข. ให้เสนอรายงานการตรวจสอบต่อสหกรณ์จังหวัด
ค. ถ้าพบข้อบกพร่องต้องรายงานกรมส่งเสริมสหกรณ์โดยมิชักช้า
ง. ให้เสนอรายงานการตรวจสอบต่อนายทะเบียนสหกรณ์
ตอบ ง. ให้เสนอรายงานการตรวจสอบต่อนายทะเบียนสหกรณ์
25. หากที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ลงมติฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบสหกรณ์ ระเบียบหรือคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์ ผู้มีอำนาจยับยั้งหรือเพิกถอนมตินั้นได้ คือใคร
ก. นายทะเบียนสหกรณ์หรืออธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ข. นายทะเบียนสหกรณ์หรือผู้ตรวจการสหกรณ์
ค. นายทะเบียนสหกรณ์หรือรองนายทะเบียนสหกรณ์
ง. นายทะเบียนสหกรณ์
ตอบ ค. นายทะเบียนสหกรณ์หรือรองนายทะเบียนสหกรณ์
26. การเข้าช่วยเหลือดำเนินกิจการของสหกรณ์ ใช้กับสหกรณ์ที่มีคุณสมบัติอย่างไร
ก. จัดตั้งยังไม่เกิน 1 ปี หรือขาดทุนติดต่อกันเกิน 3 ปี
ข. จัดตั้งยังไม่เกิน 3 ปี หรือขาดทุนติดต่อกันเกิน 2 ปี
ค. จัดตั้งยังไม่เกิน 3 ปี หรือขาดทุนติดต่อกันเกิน 3 ปี
ง. จัดตั้งยังไม่เกิน 2 ปี หรือขาดทุนติดต่อกันเกิน 3 ปี
ตอบ ข. จัดตั้งยังไม่เกิน 3 ปี หรือขาดทุนติดต่อกันเกิน 2 ปี
27. ปัจจุบันในคณะกรรมการบริหาร กพส. มีใครเป็นประธานกรรมการ
ก. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข. อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ค. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ง. รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตอบ ค. อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
28. กฎกระทรวงที่ออกมาตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ ได้กำหนดประเภทของสหกรณ์ไว้กี่ประเภท
ก. 2 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 6 ประเภท
ง. 7 ประเภท
ตอบ ก. 2 ประเภท
29. สหกรณ์จะมีฐานะเป็นนิติบุคคลเมื่อใด
ก. เมื่อขอจดทะเบียนสหกรณ์
ข. เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์รับจดทะเบียนแล้ว
ค. เมื่อมีเอกสารขอจดทะเบียนครบถ้วน
ง. เมื่อสหกรณ์ได้รับใบสำคัญรับจดทะเบียนแล้ว
ตอบ ข. เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์รับจดทะเบียนแล้ว
ก. เมื่อขอจดทะเบียนสหกรณ์
ข. อุทธรณ์ได้โดยนายทะเบียนสหกรณ์เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ค. อุทธรณ์ได้โดยคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ง. อุทธรณ์ได้โยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ตอบ ค. อุทธรณ์ได้โดยคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
31. การประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกของสหกรณ์ต้องดำเนินการภายในกี่วันนับแต่วันที่ จดทะเบียนสหกรณ์
ก. 60 วัน ข. 90 วัน
ค. 120 วัน ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. 120 วัน
32. การแก้ไขข้อบังคับของสหกรณ์จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. ตั้งแต่วันที่ลงมติในที่ประชุมใหญ่
ข. เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์ได้จดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับแล้ว
ค. ภายหลังการประชุมใหญ่ 30 วัน
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์ได้จดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับแล้ว
ก. ประชุมใหญ่สามัญปีละ 1 ครั้ง
ข. สหกรณ์ขาดทุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้ว
ค. ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็ได้
ง. ถูกหมดทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกหมดทุกข้อ
34. การลงคะแนนเสียงชี้ในกรณีใด ต้องถือเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกหรือผู้แทนสมาชิกซึ่งมาประชุม
ก. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ
ข. การพิจารณาแผนงานและรายจ่ายประจำปีของสหกรณ์
ค. การกำหนดวงเงินกู้ยืมหรือการค้ำประกัน
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ก. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ
35. ทุนสำรองของสหกรณ์จะถอนจากบัญชีทุนสำรองได้ในกรณีใด
ก. กรณีชดเชยการขาดทุน
ข. กรณีจัดสรรเข้าบัญชีทุนสำรองให้แก่สหกรณ์ใหม่ที่แยกจากสหกรณ์เดิม
ค. ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข
36. สหกรณ์ย่อมเลิกด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
ก. สหกรณ์ไม่เริ่มดำเนินกิจการภายใน 1 ปี
ข. สหกรณ์มีจำนวนสมาชิกน้อยกว่า 10 คน
ค. ล้มละลาย
ง. ถูกหมดทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกหมดทุกข้อ
37. ผู้ชำระบัญชีในสหกรณ์ที่เลิก ได้แก่ผู้ใด
ก. ผู้สอบบัญชีที่นายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้ง
ข. ผู้ชำระบัญชีที่นายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้ง
ค. พนักงานเจ้าหน้าที่ที่นายทะเบียนสหกรณ์มอบหมาย
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. ผู้ชำระบัญชีที่นายทะเบียนสหกรณ์แต่งตั้ง
38. ในการชำระบัญชี เมื่อได้มีการชำระหนี้สหกรณ์แล้ว ถ้ามีทรัพย์สินยังเหลืออยู่อีกให้ผู้ชำระบัญชีจ่ายตามลำดับดังนี้
ก. คืนค่าหุ้น – เงินปันผล – เงินเฉลี่ยคืน
ข. คืนค่าหุ้น – เงินเฉลี่ยคืน– เงินปันผล
ค. เงินปันผล – เงินเฉลี่ยคืน – คืนค่าหุ้น
ง. เงินเฉลี่ยคืน – เงินปันผล – คืนค่าหุ้น
ตอบ ก. คืนค่าหุ้น – เงินปันผล – เงินเฉลี่ยคืน
39. ตามข้อ 18. ถ้ายังมีทรัพย์สินคงเหลืออยู่อีกจะทำอย่างไร
ก. จ่ายให้ผู้ชำระบัญชี
ข. โอนให้แก่สหกรณ์อื่น
ค. โอนให้สาธารณกุศล
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. โอนให้แก่สหกรณ์อื่น
40. การขอจดทะเบียนชุมนุมสหกรณ์คณะผู้จัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ต้องลงลายมือชื่อยื่นคำขอกี่คน
ก. อย่างน้อย 3 คน
ข. อย่างน้อย 5 คน
ค. จำนวน 7 คน
ง. จำนวน 10 คน
ตอบ ข. อย่างน้อย 5 คน
41. ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ มีได้ทั้งหมดกี่คน
ก. 3 คน ข. 5 คน ค. ไม่เกิน 3 คน ง. ไม่เกิน 5 คน
ตอบ ง. ไม่เกิน 5 คน
42. กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีใครบ้าง
ก. ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ข. ผู้ทรงคุณวุฒิ
ค. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานสหกรณ์ ง. ผู้แทนสหกรณ์ประเภทละหนึ่งคน
ตอบ ข. ผู้ทรงคุณวุฒิ
43. กรรมการในคณะกรรมการบริหาร กพส. ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งมีใครบ้าง
ก. ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ข. ผู้ทรงคุณวุฒิ
ค. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานสหกรณ์ ง. ผู้แทนสหกรณ์ประเภทละหนึ่งคน
ตอบ ง. ผู้แทนสหกรณ์ประเภทละหนึ่งคน
44. การประชุมผู้ซึ่งประสงค์จะเป็นสมาชิกของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 เน้นในเรื่องของอะไร
ก. การคัดเลือกผู้จะมาเป็นสมาชิกสหกรณ์ ข. การคัดเลือกประเภทสหกรณ์
ค. การคัดเลือกผู้จะมาเป็นคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์ ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. การคัดเลือกผู้จะมาเป็นคณะผู้จัดตั้งสหกรณ์
45. ผู้ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้จะเป็นสมาชิกตามมาตรา 34(3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 จะเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์เมื่อใด
ก. ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์รับจดทะเบียนสหกรณ์ และได้ชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบแล้ว
ข. เมื่อได้ชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบแล้ว
ค. ตั้งแต่วันประชุมผู้ซึ่งจะเป็นสมาชิก
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ก. ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์รับจดทะเบียนสหกรณ์ และได้ชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบแล้ว
46. การที่สหกรณ์รับเงินอุดหนุนหรือทรัพย์สินจากทางราชการหรือบุคคลอื่นใด หากมิได้กำหนดการให้เงินอุดหนุนหรือทรัพย์สินเพื่อการใดไว้ สหกรณ์สามารถจัดสรรได้อย่างไร
ก. จัดให้เป็นรายได้ของสหกรณ์
ข. จัดให้เป็นทุนสำรองของสหกรณ์
ค. จัดให้เป็นสะสมไว้เพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของสหกรณ์ตามที่กำหนดในข้อบังคับ
ง. จัดให้เป็นทุนเพื่อการบริจาคของสหกรณ์
ตอบ ข. จัดให้เป็นทุนสำรองของสหกรณ์
47. ผู้ซึ่งที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก เพื่อดำเนินการตรวจสอบกิจการของสหกรณ์คือใคร
ก. ผู้ตรวจการสหกรณ์ ข. ผู้ตรวจราชการสหกรณ์
ค. ผู้ตรวจสอบการสหกรณ์ ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
48. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กำหนดให้สหกรณ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการขายหรือแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรไว้อย่างไร
ก. ผลิตผลที่สมาชิกผลิตขึ้น ให้พิจารณาซื้อหรือรวบรวมผลิตผลจากสมาชิกก่อนผู้อื่น
ข. ผลิตผลที่สมาชิกผลิตขึ้น สหกรณ์ต้องซื้อหรือรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกก่อนผู้อื่น
ค. สหกรณ์ซื้อหรือรวบรวมผลิตผลจากผู้ใดให้พิจารณาจากความต้องการของตลาดปลายทางเป็นหลัก
ง. สหกรณ์ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการซื้อหรือรวบรวมผลิตผลนั้น
ตอบ ก. ผลิตผลที่สมาชิกผลิตขึ้น ให้พิจารณาซื้อหรือรวบรวมผลิตผลจากสมาชิกก่อนผู้อื่น
49. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 งบดุลของสหกรณ์ประกอบด้วยรายการอะไรบ้าง
ก. สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนของสหกรณ์
ข. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน และบัญชีรายได้รายจ่ายของสหกรณ์
ค. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน และรายงานประจำปีของสหกรณ์
ง. สินทรัพย์ หนี้สิน บัญชีรายได้รายจ่าย และรายงานประจำปีของสหกรณ์
ตอบ ก. สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนของสหกรณ์
50. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กรณีเงินค่าหุ้นหรือเงินลงทุนได้ใช้เสร็จแล้ว แต่ทรัพย์สินของสหกรณ์ก็ยังไม่เพียงพอแก่การชำระหนี้ พระราชบัญญัติสหกรณ์ดังกล่าวมีข้อกำหนดอย่างไรไว้
ก. ให้ผู้ชำระบัญชีเร่งทำรายการและรายงานการชำระบัญชีเสนอต่อผู้สอบบัญชี
ข. ให้ผู้ชำระบัญชีรายงานผลต่อนายทะเบียนสหกรณ์เพื่อพิจารณาสั่งการ
ค. ให้ผู้ชำระบัญชีแจ้งคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เพื่อนัดประชุมใหญ่สมาชิกสหกรณ์ในการพิจารณาแก้ไขปัญหาตามกรณีเช่นว่านั้น
ง. ให้ผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้สหกรณ์ล้มละลาย
ตอบ ง. ให้ผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้สหกรณ์ล้มละลาย
51. เมื่อผู้ชำระบัญชีจัดทำงบดุลของสหกรณ์เสร็จแล้ว พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กำหนดขั้นตอนที่ต่อเนื่องไว้อย่างไร
ก. ให้ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลนั้นต่อนายทะเบียนสหกรณ์
ข. ให้ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลนั้นต่อที่ประชุมใหญ่
ค. ให้ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลนั้นต่อผู้สอบบัญชี
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ให้ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลนั้นต่อผู้สอบบัญชี
52. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 เรื่องการชำระบัญชีกรณีเจ้าหนี้คนใดมิได้ทวงถามให้ชำระหนี้ผู้ชำระบัญชีมีข้อปฏิบัติอย่างไร
ก. พิจารณาวางเงินสำหรับจำนวนหนี้นั้นไว้ต่อนายทะเบียนสหกรณ์
ข. ต้องวางเงินสำหรับจำนวนหนี้นั้นไว้ต่อนายทะเบียนสหกรณ์
ค. รอเจ้าหนี้ทวงถามภายในกำหนด 2 ปี พ้นเวลาให้ตัดรายการเจ้าหนี้ทิ้งไป
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. ต้องวางเงินสำหรับจำนวนหนี้นั้นไว้ต่อนายทะเบียนสหกรณ์
53. ในคดีฟ้องร้องเรียกหนี้สินที่สหกรณ์ สมาชิก หรือผู้ชำระบัญชีเป็นลูกหนี้อยู่ พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กำหนดข้อห้ามมิให้ฟ้องร้องด้านระยะเวลาอย่างไร
ก. เมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์ถอนชื่อสหกรณ์ออกจากทะเบียน
ข. เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์ถอนชื่อสหกรณ์ออกจากทะเบียน
ค. ไม่มีข้อกำหนดในการฟ้องร้องด้านระยะเวลา
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์ถอนชื่อสหกรณ์ออกจากทะเบียน
54. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ชุมนุมสหกรณ์มีอำนาจกระทำการได้แค่ไหน
ก. ได้เช่นเดียวกับที่กำหนดอำนาจกระทำการให้สหกรณ์
ข. ได้มากกว่าที่กำหนดอำนาจกระทำให้สหกรณ์
ค. ได้ตามมาตรา 46 และตามที่กำหนดโดยกฎหมาย
ง. ได้ตามมาตรา 46 และตามที่กำหนดโดยคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ
ตอบ ค. ได้ตามมาตรา 46 และตามที่กำหนดโดยกฎหมาย
55. ในการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการการชุมนุมสหกรณ์ พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 กำหนดไว้อย่างไร
ก. นำบทบัญญัติในมาตรา 50 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข. ใช้หลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับของชุมนุมสหกรณ์
ค. ใช้จำนวนหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับชุมนุมสหกรณ์
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. ใช้จำนวนหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับชุมนุมสหกรณ์
56. สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยมีสมาชิกที่เป็นลักษณะใด
ก. สมาชิกที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ ข. สมาชิกที่เป็นสหกรณ์
ค. สมาชิกที่เป็นเกษตรกร ง. สมาชิกที่เป็นกลุ่มเกษตรกร
ตอบ ข. สมาชิกที่เป็นสหกรณ์
57. ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 คณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยมีจำนวนเท่าใด
ก. ไม่เกิน 15 คน ข. มีเท่าใดก็ได้ แต่ไม่เกิน 17 คน
ค. ไม่จำกัดจำนวน ง. ตามที่กำหนดในข้อบังคับ
ตอบ ก. ไม่เกิน 15 คน
58. เลขานุการของคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยคือใคร
ก. กรรมการซึ่งที่ประชุมใหญ่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเป็นผู้เลือกตั้ง
ข. ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ค. ผู้ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยคัดเลือก
ง. ผู้ซึ่งประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยแต่งตั้ง
ตอบ ข. ผู้อำนวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
59. ปัจจุบันหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรถูกกำหนดโดยอะไร
ก. พระราชกฤษฎีกา ข. ประกาศของคณะปฏิวัติ
ค. กฎกระทรวง ง. นายทะเบียนสหกรณ์
ตอบ ก. พระราชกฤษฎีกา
60. นายทะเบียนกลุ่มเกษตรกรประจำจังหวัดในปัจจุบันคือใคร
ก. นายทะเบียนสหกรณ์ ข. สหกรณ์จังหวัด
ค. เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ง. เกษตรจังหวัด
ตอบ ค. เกษตรและสหกรณ์จังหวัด